ADS


Breaking News

ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล วันคล้ายวันพระราชสมภพ กรมสมเด็จพระเทพฯ

ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

     วันที่ 8 เมษายน 2568 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นำคณะข้าราชการตำรวจกว่า 200 นาย ร่วมกิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิต ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ตำรวจภูธรภาค 1 แสดงความจงรักภักดีผ่านการบริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศ

      พิธีบริจาคโลหิตเริ่มขึ้นเวลา 08.30 น. โดยมี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และคุณณัฐวดี เอี่ยมวงศ์ ประธานสมาคมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 1 นำคณะข้าราชการตำรวจจากหน่วยงานในสังกัด ภ.1 ประกอบด้วยตัวแทนจาก:

  • ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ
  • ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี
  • ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี
  • กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 1
  • กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1
  • กองบังคับการปราบปรามคดีอาญาตำรวจภูธรภาค 1
  • คณะแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 1

ภาวะขาดแคลนโลหิตวิกฤติ ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมแก้ไขปัญหา

     ตำรวจภูธรภาค 1 ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนโลหิตที่สภากาชาดไทยและโรงพยาบาลทั่วประเทศกำลังเผชิญ โดยปัจจุบันมีปริมาณโลหิตสำรองลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยจำนวนมาก การบริจาคโลหิตครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์สำคัญในการ:

  1. เฉลิมพระเกียรติและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ
  2. ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนโลหิตสำรองของประเทศ
  3. เสริมสร้างความสามัคคีระหว่างผู้บังคับบัญชาและข้าราชการตำรวจ
  4. ปลูกฝังจิตสำนึกในการเสียสละ มีเมตตา และบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม

    กิจกรรมดังกล่าวสะท้อนถึงปณิธานของตำรวจภูธรภาค 1 ที่มุ่งเป็นหน่วยงานที่ "เป็นหนึ่ง พึ่งได้ ทันสมัย ดูแลความปลอดภัย เพื่อประชาชน" ไม่เพียงในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

การบริจาคโลหิตช่วยชีวิต - ทำไมควรร่วมบริจาค

     การบริจาคโลหิต 1 ครั้ง สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้มากถึง 3 คน เนื่องจากโลหิตที่ได้รับจะถูกแยกส่วนเป็นเม็ดเลือดแดง พลาสมา และเกล็ดเลือด เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความต้องการแตกต่างกัน โดยผู้บริจาคไม่เพียงได้ช่วยเหลือผู้อื่น แต่ยังได้ประโยชน์ต่อสุขภาพของตนเองด้วย

    ประชาชนทั่วไปที่มีสุขภาพดี อายุ 17-70 ปี น้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถร่วมบริจาคโลหิตได้ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลทั่วประเทศ

"ตำรวจภูธรภาค ๑ เป็นหนึ่ง พึ่งได้ ทันสมัย ดูแลความปลอดภัย เพื่อประชาชน"