เกษตรกรยโสธรเฮ! ปลูก ‘ถั่วเขียวพันธุ์ KUML’ แค่ 2 เดือน สร้างรายได้หลักหมื่น/ครัวเรือน
สวทช. ผนึก ธ.ก.ส.-เกษตรจังหวัดยโสธร ขยายพื้นที่ปลูก ‘ถั่วเขียวพันธุ์ KUML’ 1,000 ไร่ ปี 2569

เกษตรกรจังหวัดยโสธรปรับตัวสู่ทางเลือกใหม่ หันมาปลูก “ถั่วเขียวพันธุ์ KUML” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และพัฒนาโดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน การันตีเป็นพืชเศรษฐกิจมาแรงแห่งทุ่งกุลาร้องไห้ ด้วยจุดเด่น “เมล็ดโต น้ำหนักดี” ราคารับซื้อสูงสุดถึง 40 บาท/กิโลกรัม ใช้ระยะปลูกเพียง 2 เดือน สร้างรายได้เฉลี่ย 22,000 บาทต่อครัวเรือน
เปิดตัวศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีถั่วเขียว KUML ยกระดับเกษตรอินทรีย์สู่ตลาดนำการผลิต
(11 มีนาคม 2568) ณ บ้านกุดเสถียร ตำบลสร้างมิ่ง อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร สวทช. ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงานเกษตรจังหวัดยโสธร เปิดงานวันเก็บเกี่ยวถั่วเขียว KUML พร้อมเปิดตัว ศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตถั่วเขียว KUML ในระดับชุมชน
น.ส.วิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ ผู้อำนวยการ สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. เปิดเผยว่า โครงการนี้ช่วยให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ครบวงจรตั้งแต่การเพาะปลูก การจัดการดิน การเก็บเมล็ดพันธุ์ จนถึงการตลาด นำไปสู่การขยายเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเขียว KUML ทั่วพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้
ด้าน นายสันชัย พัฒนะวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ระบุว่า จังหวัดยโสธรตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการผลิตถั่วเขียวอินทรีย์ โดยจะเร่งส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน ตรงตามความต้องการของตลาด
เกษตรกรแห่ปลูก “ถั่วเขียว KUML” รายได้ดี-ช่วยบำรุงดิน
สวทช. หนุน 1,750 กิโลกรัมเมล็ดพันธุ์ ขยายผลสู่ 8 อำเภอ
น.ส.ณิฎฐา คุ้มโต นักวิชาการอาวุโส สวทช. เผยว่าในฤดูกาลผลิตปี 2567/2568 สวทช. ได้รับทุนสนับสนุนจาก ธ.ก.ส. และร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดยโสธร แจกเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว KUML จำนวน 1,750 กิโลกรัม พร้อมไรโซเบียม เพื่อช่วยให้ดินอุดมสมบูรณ์ โดยคัดเลือก 14 กลุ่มเกษตรกรใน 8 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอค้อวัง
- อำเภอมหาชนะชัย
- อำเภอคำเขื่อนแก้ว
- อำเภอเมืองยโสธร
- อำเภอทรายมูล
- อำเภอกุดชุม
- อำเภอไทยเจริญ
- อำเภอเลิงนกทา

สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เลิงนกทา จำกัด รับหน้าที่เป็นตลาดรับซื้อหลัก ส่งเสริมเกษตรกรปลูกแบบอินทรีย์ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างอาชีพที่ยั่งยืน
กรมส่งเสริมการเกษตร ดันถั่วเขียวเป็นพืชหลังนา ตั้งเป้าปลูก 32 จังหวัดทั่วไทย
นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า นโยบายส่งเสริมพืชหลังนาเพื่อเกษตรปลอดภัยของกรมส่งเสริมการเกษตร ได้รับความร่วมมือจาก สวทช. และสำนักงานเกษตรจังหวัดใน 32 จังหวัด รวมถึง ยโสธร โดยดำเนินการภายใต้โครงการ “เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชตระกูลถั่ว” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
โดย 32 จังหวัดนำร่องประกอบด้วย
ภาคเหนือ: เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, พิษณุโลก, น่าน, พะเยา ฯลฯ
ภาคกลาง: กำแพงเพชร, ลพบุรี, อุทัยธานี ฯลฯ
ภาคอีสาน: ขอนแก่น, อุบลราชธานี, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์ ฯลฯ
เป้าหมายสำคัญของโครงการ คือ ลดการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์คุณภาพ, เพิ่มผลผลิต, และขยายตลาดให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
เกษตรจังหวัดยโสธร ประกาศขยายพื้นที่ปลูกเป็น 1,000 ไร่ ในปี 2569
นายนพดล ผุดผ่อง เกษตรจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธรมีพื้นที่เกษตรกรรมรวม 1.7 ล้านไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ทำนาถึง 1.35 ล้านไร่ ซึ่งส่วนใหญ่พึ่งพาน้ำฝน การปลูกพืชอายุสั้นหลังฤดูเก็บเกี่ยวจึงเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มรายได้

"ถั่วเขียว KUML เป็นพืชที่เหมาะกับเกษตรกรในพื้นที่ เพราะลงทุนต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนสูง อีกทั้งยังช่วยบำรุงดิน ไม่ต้องเผาตอซัง ลดต้นทุนปุ๋ย และยังลดปัญหาฝุ่น PM2.5"
จากผลตอบรับที่ดี สำนักงานเกษตรจังหวัดยโสธรจึงวางเป้าขยายพื้นที่ปลูกจาก 350 ไร่ในปี 2568 เป็น 1,000 ไร่ในปี 2569 พร้อมส่งเสริมเกษตรกรให้ใช้ระบบเกษตรอินทรีย์เพื่อสร้างความยั่งยืน
ความสำคัญ
✅ ถั่วเขียว KUML เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของยโสธร ปลูกง่าย รายได้ดี
✅ ปลูกระยะสั้น 2 เดือน เก็บเกี่ยวได้ สร้างรายได้ 22,000 บาท/ครัวเรือน
✅ ราคา สูงสุด 40 บาท/กก. ตรงตามความต้องการตลาด
✅ ช่วยบำรุงดิน ลดต้นทุนปุ๋ย ลดการเผาตอซัง ลด PM2.5
✅ ปี 2569 ขยายพื้นที่ปลูกเป็น 1,000 ไร่ พร้อมตั้งศูนย์เรียนรู้ระดับชุมชน
นอกจากนี้ ถั่วเขียว KUML ยังมีคุณสมบัติช่วยบำรุงดิน ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตข้าว และไม่สร้างฝุ่น PM2.5 จากการเผาตอซัง ส่งผลให้ สำนักงานเกษตรจังหวัดยโสธร วางแผนขยายพื้นที่ปลูกจาก 350 ไร่ในปี 2568 เป็น 1,000 ไร่ในปี 2569
นอกจากนี้ ถั่วเขียว KUML ยังมีคุณสมบัติช่วยบำรุงดิน ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตข้าว และไม่สร้างฝุ่น PM2.5 จากการเผาตอซัง ส่งผลให้ สำนักงานเกษตรจังหวัดยโสธร วางแผนขยายพื้นที่ปลูกจาก 350 ไร่ในปี 2568 เป็น 1,000 ไร่ในปี 2569
ถั่วเขียว KUML ไม่ใช่แค่พืชทางเลือก แต่เป็นพืชแห่งอนาคตของเกษตรกรไทย!