ADS


Breaking News

เครือข่าย “Big Brothers” ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน นำชุมชนสู่วิสาหกิจเพื่อสังคมผ่าน “น้ำผึ้งชันโรง” เสริมความยั่งยืน

วช. ผนึกกำลัง บางจาก – ดาว – กฟผ. – SCG – กลุ่มเซ็นทรัล – กรมอุทยานฯ ขยายเครือข่าย Big Brothers ระยะที่ 2 สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

     (วันที่ 18 มีนาคม 2568) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายชั้นนำ ได้แก่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), กลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทย (DOW), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (SCGC), บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จัดพิธีประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือเครือข่าย Big Brothers ระยะที่ 2 “Big Brothers..นำชุมชนสู่วิสาหกิจเพื่อสังคม...น้ำผึ้งชันโรง” ณ โรงแรม เอส 31 สุขุมวิท
     โครงการนี้มีเป้าหมาย ยกระดับอุตสาหกรรมการเลี้ยงผึ้งชันโรง ให้เป็นอาชีพที่สร้างรายได้มั่นคงแก่ชุมชน พร้อมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดการเผาป่า และลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ

Big Brothers ระยะที่ 2 : วิสาหกิจเพื่อสังคม “น้ำผึ้งชันโรง” สร้างรายได้ สร้างความยั่งยืน

     ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า วช. มุ่งเน้นการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะ การเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรไทย ซึ่งเป็นกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ผ่านเครือข่าย Big Brothers ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
     การส่งเสริมอุตสาหกรรมผึ้งชันโรง ไม่เพียงช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร แต่ยังช่วย ลดการเผาป่า ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหามลภาวะทางอากาศ นอกจากนี้ วช. ยังสนับสนุนงานวิจัยเพื่อพัฒนา อาหารเสริมสำหรับชันโรง โดยมี ดร.จักราวุธ ไม้ทิพย์ และคณะจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง เป็นผู้พัฒนาโครงการ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนอาหารตามธรรมชาติของชันโรงในช่วงฤดูฝน
     ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ ที่จะเปลี่ยน “น้ำผึ้งชันโรง” จากเพียงสินค้าการเกษตร สู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสังคม ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ความร่วมมือเพื่อสิ่งแวดล้อม – ลดปัญหาฝุ่น PM2.5 – ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน

    ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานเพื่อพัฒนาโจทย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม วช. กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเผชิญปัญหาความยากจนและผลกระทบจากสังคมผู้สูงอายุ โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยต้องเผชิญความเปราะบางทางเศรษฐกิจ
     ในปี 2565 เครือข่าย “Big Brothers เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงชันโรง” ได้เริ่มต้นขึ้นเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชน พร้อมช่วยลดการเผาป่า และปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยเริ่มโครงการนำร่องใน จังหวัดระยอง ขอนแก่น และสมุทรปราการ จากนั้นในปี 2566 ได้รับการสนับสนุนจาก วช. ให้พัฒนาอาหารเสริมสำหรับชันโรงในฤดูฝน และในปีนี้ (2568) ได้ ขยายโครงการไปยังตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (SCGC) เป็นพี่เลี้ยงในการสนับสนุนการดำเนินโครงการ

เสวนาแลกเปลี่ยนแนวทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมผึ้งชันโรง

 
     ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อสำคัญ ได้แก่
     - “ความสำเร็จในการส่งเสริมการเลี้ยงชันโรง” โดย คุณกรณี กองอมรภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย
     - “การพัฒนาอาหารเสริมเพิ่มศักยภาพการเลี้ยง” โดย ดร.จักราวุธ ไม้ทิพย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง
     - “ความคิดเห็นของชุมชนบางน้ำผึ้ง” โดย นายสมศักดิ์ สำเรีตน์ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งชันโรง ตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ  
    โดยมี คุณกิตติ สิงหาปัด จาก สวนนา 3 ดี เป็นผู้ดำเนินรายการเสวนา

ขยายเครือข่าย “Big Brothers” สู่พื้นที่ใหม่ ขับเคลื่อนสังคมอย่างยั่งยืน

    ช่วงท้ายของงาน เป็นพิธีประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือเครือข่าย Big Brothers ระยะที่ 2 นำโดย
     - สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
     - บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
     - กลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทย (DOW)
     - การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
     - บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (SCGC)
     - บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล
     - กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
     - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
     - วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา จังหวัดระยอง
     - พื้นที่ชุมชนหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งมี SCGC เป็นพี่เลี้ยง
     “Big Brothers…นำชุมชนสู่วิสาหกิจเพื่อสังคม” อีกหนึ่งก้าวสำคัญของความร่วมมือภาครัฐ-เอกชนในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน และช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน