เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าขอบคุณสภาฯ โหวตรับทราบรายงาน กมธ. วิสามัญ ชี้เป็นก้าวสำคัญสู่การควบคุมที่ถูกกฎหมาย

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าขอบคุณ สภาฯ โหวตรับทราบรายงาน กมธ. วิสามัญบุหรี่ไฟฟ้า   

     ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเผย หลังสภาฯ มีมติรับทราบรายงาน กมธ. วิสามัญบุหรี่ไฟฟ้า ระบุเสียงส่วนใหญ่เห็นควรให้ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบให้ความร้อนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมชี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าและปกป้องเยาวชนจากการเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้  

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าชี้การแบนไม่ได้ผล – เสนอใช้กฎหมายควบคุมแทน

     นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน เจ้าของเพจ "มนุษย์ควัน" และตัวแทนผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ได้ออกมาแสดงความขอบคุณ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีมติรับทราบรายงานการศึกษาแนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาของ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยเสียงข้างมากของ กมธ. เห็นควรให้มีการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบให้ความร้อนอย่างถูกกฎหมาย  

     "รายงานฉบับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการจัดการปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งเกิดจากการแบนบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี แต่กลับไม่สามารถลดอัตราการใช้ได้จริง" นายสาริษฏ์ กล่าว  

     ปัจจุบัน จำนวนผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้ง ตลาดบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีมาตรการตรวจสอบคุณภาพสินค้า ส่งผลให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ  

กมธ. พิจารณา 3 แนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า – เสียงส่วนใหญ่อยากให้ใช้กฎหมายควบคุมแทนการแบน

     รายงานของ กมธ. ได้นำเสนอแนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า 3 แนวทาง ได้แก่  

     1. คงสถานะบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

     2. ควบคุมเฉพาะผลิตภัณฑ์แบบให้ความร้อน (Heat-not-burn)

     3. ควบคุมทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์แบบให้ความร้อนให้ถูกกฎหมาย

     โดยเสียงข้างมากของ กมธ. 26 จาก 35 ราย สนับสนุน แนวทางที่ 2 และ 3 ซึ่งหมายถึงการ ยกเลิกการแบนและใช้กฎหมายควบคุมอย่างเหมาะสม คล้ายกับ 80 กว่าประเทศทั่วโลก ที่ได้นำระบบควบคุมมาบังคับใช้แทน  

     นายสาริษฏ์ กล่าวต่อว่า หลายประเทศที่เคยแบนบุหรี่ไฟฟ้า เช่น นิวซีแลนด์ และนอร์เวย์ ได้หันกลับมาควบคุมโดยใช้กฎหมายแทน เพราะพบว่าการแบนไม่สามารถแก้ปัญหาการใช้ในกลุ่มเยาวชนได้จริง

ก้าวต่อไปของรายงาน กมธ. – เสนอ ครม. พิจารณาออกกฎหมายควบคุม

     นายสาริษฏ์ ระบุว่า ตลอดกระบวนการศึกษาของ กมธ. มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ กมธ. ได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งนำไปสู่ข้อสรุปของเสียงข้างมากที่สนับสนุนการควบคุมอย่างถูกกฎหมาย  

     "เราขอขอบคุณการตัดสินใจของ กมธ. ที่กล้าหาญในการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่แท้จริง โดยไม่หวั่นไหวต่อกระแสข่าวลบ หรือแรงกดดันจากกลุ่มเอ็นจีโอที่พยายามโจมตีรายงานนี้"

     รายงานฉบับนี้จะถูก ส่งต่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป โดยคาดหวังว่า มติของสภาฯ จะเป็นก้าวแรกสู่การออกกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

สรุปประเด็นสำคัญของรายงาน กมธ. วิสามัญบุหรี่ไฟฟ้า

     ✅ กมธ. ศึกษาทุกมิติ ทั้งด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ  

     ✅ เสียงส่วนใหญ่ (26 จาก 35 คน) สนับสนุนให้ใช้กฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าแทนการแบน  

     ✅ รายงานถูกส่งต่อให้ ครม. พิจารณาเพื่อนำไปสู่การออกกฎหมายควบคุมอย่างเป็นทางการ  

     การพิจารณาของ ครม. ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของ แนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยลดปัญหาตลาดเถื่อน และสร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคได้ในระยะยาว