CEO ชวน “นักเรียนจิตรลดา” สืบหาคนร้ายคดีฆาตกรรมจากเศษขนปริศนา ผ่านแสงซินโครตรอน
CEO "ค่ายลำแสงซินโครตรอนชวน “นักเรียนจิตรลดา” สืบหาคนร้ายคดีฆาตกรรมจากเศษขนปริศนา
นครราชสีมา – สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) จัดกิจกรรม “ค่ายลำแสงซินโครตรอน แสงแห่งอนาคต” สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจิตรลดา โดยมีไฮไลท์การจำลองสถานการณ์คดีฆาตกรรมลึกลับ ใช้เทคนิคถ่ายภาพเอกซเรย์ 3 มิติ (X-ray Microtomography) วิเคราะห์เศษขนปริศนา พร้อมฐานการทดลองสุดล้ำเพื่อเข้าใจเทคโนโลยีเครื่องเร่งอนุภาคและการประยุกต์ใช้แสงซินโครตรอน
ดร.ประพงษ์ คล้ายสุบรรณ์ รองผู้อำนวยการพัฒนาเครื่องกำเนิดแสงสยาม 2 และประธานคณะทำงานจัดกิจกรรม เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม 2568 ณ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน จ.นครราชสีมา โดยมีนักเรียนจากห้องวิทยาศาสตร์ โรงเรียนจิตรลดา จำนวน 22 คนเข้าร่วม เพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีแสงซินโครตรอนผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น การเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการแสงสยาม และการทดลองวิทยาศาสตร์ใน 4 ฐานสำคัญ
เปิดประสบการณ์สืบคดีด้วยเทคนิคเอกซเรย์ 3 มิติ
หนึ่งในฐานการทดลองที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ “ฐานการทดลองสืบจากขน” ซึ่งจำลองคดีฆาตกรรมที่มีเพียงเศษขนเป็นหลักฐาน โดยนักเรียนได้ใช้เทคนิค X-ray Microtomography วิเคราะห์โครงสร้าง 3 มิติของเศษขนขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพื่อแกะรอยคนร้าย การทดลองนี้เป็นตัวอย่างการประยุกต์ใช้แสงซินโครตรอนที่สามารถนำไปต่อยอดในงานด้านอาชญาวิทยา
ฐานการทดลองอื่นๆ
นักเรียนยังได้เรียนรู้พื้นฐานและการประยุกต์ใช้แสงซินโครตรอนในฐานการทดลองอื่นๆ ได้แก่:
1. ฐานการทดลองการเร่งและบังคับอนุภาค
ใช้ชุดการทดลองขดลวดเฮล์มโฮลต์ซ (Helmholtz coils) ควบคุมการเคลื่อนที่ของลำอิเล็กตรอนด้วยแม่เหล็ก ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของเครื่องเร่งอนุภาค
2. ฐานการทดลองปรากฏการณ์สั่นพ้อง
ให้นักเรียนสร้างเสียงที่มีความถี่เท่ากับความถี่ธรรมชาติของแก้วไวน์ จนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงและแก้วแตก เพื่อแสดงตัวอย่างของปรากฏการณ์การสั่นพ้อง
3. ฐานการทดลองการวิเคราะห์ธาตุองค์ประกอบ
ใช้เทคนิค X-ray Fluorescence Spectroscopy ในการตรวจสอบชนิดและปริมาณธาตุในตัวอย่าง เช่น การวิเคราะห์สัดส่วนทองคำ
ความร่วมมือพัฒนานักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่
กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนและโรงเรียนจิตรลดา ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประสบการณ์เรียนรู้นอกห้องเรียนสำหรับนักเรียน พร้อมเสริมสร้างทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านการสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์ ค่ายวิทยาศาสตร์ และการฝึกอบรมต่างๆ
ดร.ประพงษ์ กล่าวปิดท้ายว่า กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาความรู้ด้านแสงซินโครตรอน แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนสนใจวิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต