สกศ. ระดมพลังขับเคลื่อน “แผนการศึกษาแห่งชาติ” เรือธงของสภาการศึกษา

สกศ. ระดมสรรพกำลัง เร่ง “แผนการศึกษาชาติ เรือธงของสภาการศึกษา

     กรุงเทพฯ, 31 มกราคม 2568 – รองศาสตราจารย์ ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำร่าง แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ณ ห้องพาร์ควิว ชั้น 6 โรงแรมเบสเวสเทิร์น จตุจักร กรุงเทพฯ โดยมี ดร.นิติ นาชิต รองเลขาธิการ สกศ. และ นางอำภา พรหมวาทย์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนการศึกษา พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากร สกศ. เข้าร่วม  

ยกระดับการศึกษาไทย วางรากฐานสู่อนาคต

     รศ.ดร.ประวิต ระบุว่าการประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อบูรณาการองค์ความรู้ของทุกฝ่ายใน สกศ. พร้อมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับร่างแผนการศึกษาแห่งชาติที่จัดทำโดย คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายและแผนการศึกษา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาทิศทางการศึกษาของไทยให้สอดคล้องกับบริบทโลก  

      ในการประชุม รศ.ดร.ประวิต ได้แบ่งปูมหลังของแผนการศึกษาแห่งชาติออกเป็น 2 ยุคหลัก ได้แก่  

1️⃣ ก่อนปี พ.ศ. 2542 – มีแผนการศึกษา 4 ฉบับ ซึ่งเป็นพระราชโองการ มีเนื้อหากระชับ ชัดเจน และไม่มีการกำหนดเวลาสิ้นสุด ทำให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา  

2️⃣ หลังปี พ.ศ. 2542 – แผนการศึกษาแห่งชาติถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ มีการกำหนดแนวทาง เป้าหมาย ตัวชี้วัด และกลไกขับเคลื่อนที่ชัดเจนขึ้น พร้อมทั้งวางแผนติดตามและประเมินผล  

มุมมองสู่อนาคต: แผนการศึกษาแห่งชาติที่มีประสิทธิภาพ

     ที่ประชุมได้อภิปรายถึงโครงสร้างของร่างแผนการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน ทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เพื่อให้เป็นพลังขับเคลื่อนประเทศอย่างสมดุล โดยแผนควรประกอบด้วย 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่  

✅ หลักการและความมุ่งหมาย

✅ ระบบการศึกษา

✅ แนวนโยบายการศึกษา

✅ แนวทางการพัฒนาการศึกษา

✅ แนวทางการขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ

     นอกจากนี้ ยังมีการเน้นย้ำถึง ผลลัพธ์ขั้นสุดท้าย (Ultimate Outcome) ซึ่งต้องมี ความชัดเจน วัดผลได้ และอ้างอิงข้อมูลเชิงสถิติและเชิงประจักษ์ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม 

ก้าวสำคัญของ สกศ. สู่การขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาไทย

     ที่ประชุมเห็นพ้องว่าการดำเนินงานครั้งนี้ต้อง บูรณาการองค์ความรู้จากทุกหน่วยงาน เพื่อสร้างแผนการศึกษาที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ และสามารถนำไปใช้ได้จริง ซึ่งจะช่วยกำหนดทิศทางการศึกษาให้สอดคล้องกับ การเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและโลก

     การประชุมครั้งนี้จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของ สกศ. ในการกำหนดนโยบายการศึกษาให้เป็นไปตาม วิสัยทัศน์ “องค์กรคลังปัญญา ขับเคลื่อนการศึกษาด้วยองค์ความรู้” พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย “เรียนดี มีความสุข” เพื่อให้การศึกษาของไทยมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป