สกสว. ผนึก ธนาคารโลก รวมกำลังทุกเครือข่าย เสริมแกร่งการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) ทั้งระบบ
สกสว. จับมือ ธนาคารโลก สานพลังทุกภาคส่วน สร้างความร่วมมือการลงทุนด้าน ววน. ของประเทศในทุกมิติ
ขับเคลื่อนอนาคตประเทศด้วยความร่วมมือระดับโลก
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และธนาคารโลก (World Bank) จัดงาน "ทิศทางวิจัย X นวัตกรรม 2568" ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยมีการเสวนาภายใต้หัวข้อ "สานพลังตอบโจทย์การกำหนดทิศทางและเป้าหมายการลงทุนด้าน ววน." เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนการลงทุนด้าน ววน. ของประเทศไทย
ความร่วมมือระดับชาติและนานาชาติ: พลังขับเคลื่อนที่ยั่งยืน
ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวว่าความร่วมมือระหว่าง สกสว. สอวช. และธนาคารโลกช่วยวิเคราะห์และกำหนดตัวชี้วัดสำคัญ เช่น ดัชนี SRI (Science, Research, and Innovation Index) ซึ่งไทยได้รับคะแนน B+ สะท้อนถึงความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในด้านการลงทุนและการพัฒนาบุคลากรด้านวิจัย
ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนด้าน ววน. โดยตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนภาครัฐเป็น 2% ของ GDP พร้อมเสริมสร้างศักยภาพด้านบุคลากรวิจัยจาก 25 คนต่อประชากร 10,000 คน เพื่อรองรับเทคโนโลยีเป้าหมาย อาทิ Climate Tech และการพัฒนาเทคโนโลยีระดับโลก
แผน SRI FOR ALL: ยุทธศาสตร์ การพัฒนาที่ครอบคลุมทุกมิติ
ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. ย้ำบทบาทสำคัญของ ววน. ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้วิสัยทัศน์ "SRI for ALL" ที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก:
1. ยุทธศาสตร์และแผนด้าน ววน.
2 . การบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
3. การบริหารจัดการกองทุนที่โปร่งใส
โดยมีการนำกลยุทธ์ SILK (Synergy, Intelligent, Leap Technology, Knowledge Governance) มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านการลงทุน พร้อมเปิดทางให้ภาคเอกชนและพันธมิตรนานาชาติร่วมมืออย่างไร้รอยต่อ
ธนาคารโลก: ยกระดับความร่วมมือเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
Ms. Melinda Good ผู้บริหารธนาคารโลกประจำประเทศไทยและเมียนมา กล่าวยกย่องประเทศไทยที่เป็นผู้นำในการพัฒนาดัชนี SRI พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการกระจายเทคโนโลยีและการลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่อผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
เธอชี้ว่าการจัดทำดัชนีเพื่อวัดผลกระทบของการลงทุน ววน. เป็นหนึ่งในแนวทางที่ประเทศไทยกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยสามารถนำตัวชี้วัดเหล่านี้ไปปรับใช้นโยบายเพื่อสร้างงานและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน
ภาคเอกชน: กุญแจสำคัญในการพัฒนา
ดร.วิบูลย์ รักสาสน์เจริญผล รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลงทุนด้าน ววน. ของภาคเอกชนที่มีสัดส่วนถึง 73% ของการลงทุนทั้งหมดในประเทศ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ พร้อมเสนอแนวทางให้ภาครัฐสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ เช่น AI, Robotics และ Climate Solutions
เขายกตัวอย่างบริษัท NVIDIA ที่เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ธรรมดาให้กลายเป็นเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ด้วยการลงทุนใน R&D (Research and Development) สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ ววน. เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
คุณศุภชัย สัจไพบูลย์กิจ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมนวัตกรรมและวิจัย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความสำคัญของการร่วมมือกับ สกสว. เพื่อผลักดันการนำงานวิจัยและนวัตกรรมมาต่อยอดธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในยุคของ Digital Disruption และ Generational Disruption ที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทันการแข่งขันในตลาดโลก
เน้นย้ำว่าการเติบโตในระยะยาวจำเป็นต้องสร้าง New S-Curve ผ่านการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าและตอบสนองความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ โดยนโยบายหลักของหอการค้าไทยยังเน้นสร้างผลกระทบเชิงบวก (Impact) ในอนาคต
สรุป งาน "ทิศทางวิจัย X นวัตกรรม 2568"
เป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการขับเคลื่อนการพัฒนา ววน. ผ่านความร่วมมือทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ด้วยการสนับสนุนจากธนาคารโลก ภาครัฐ และภาคเอกชน ประเทศไทยจะสามารถยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต