ม.นเรศวร ผนึก บริษัทวีลาล่า และ INVITROCUE PTE LTD ตั้งศูนย์สัตว์ทดลองระดับก่อนคลินิก พร้อมขยายงานวิจัยและพัฒนายาในอาเซียน
ม.นเรศวร จับมือ บริษัท วีลาล่า และ INVITROCUE PTE LTD จัดตั้งห้องปฏิบัติการสัตว์ทดลองระดับก่อนคลินิก เตรียมผุดงานบริการการวิจัยยาชนิดใหม่และหลักสูตรอบรมบุคลากรรองรับ ตั้งเป้าเป็นฮับด้านการวิจัยและพัฒนายาในการรักษาโรคใหม่ของอาเซียน
พิษณุโลก – 2 ธันวาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) โดย รศ.ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาการแทนอธิการบดี ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท วีลาล่า นำโดย ดร.พงษธร โชติเกษมศรี และบริษัท INVITROCUE PTE LTD ตัวแทนโดย Dr. Her Zhisheng เพื่อจัดตั้งห้องปฏิบัติการสัตว์ทดลองระดับก่อนคลินิกมาตรฐานสากลในประเทศไทย มุ่งเน้นสนับสนุนการพัฒนายาและเทคโนโลยีทางการแพทย์ พร้อมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางวิจัยและพัฒนายาในภูมิภาคอาเซียน
เป้าหมายสำคัญของความร่วมมือ
ความร่วมมือครั้งนี้จะเน้นการ พัฒนางานวิจัยยาชนิดใหม่ และการจัดอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อรองรับการให้บริการทดสอบระดับก่อนคลินิก โดยมีแผนงานร่วมกันในหลายมิติ เช่น:
1. จัดหลักสูตรอบรม บุคลากรในสายงานวิจัยยา วัคซีน เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น อาหารเสริมและเครื่องสำอาง
2. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการวิจัย รวมถึงการใช้ข้อมูลและทรัพยากรทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการวิจัย
3. สร้างเครือข่ายวิจัยระหว่างประเทศ โดยอาศัยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
แผนงานพัฒนาและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
รศ.ดร.ศรินทร์ทิพย์ กล่าวว่า การตั้งห้องปฏิบัติการสัตว์ทดลองนี้จะช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในกระบวนการพัฒนายาใหม่ รวมถึงเปิดโอกาสให้ประเทศไทยเป็นแหล่งให้บริการสำหรับลูกค้าด้านวิจัยจากทั่วโลก ความร่วมมือครั้งนี้ยังส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาศูนย์รักษามะเร็งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และ โรงพยาบาลพระพุทธชินราช ที่ดูแลผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมาก
“รูปธรรมของโครงการนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้เร็วขึ้นในราคาที่เหมาะสม ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการรอคอยยา” รศ.ดร.ศรินทร์ทิพย์กล่าว
มุมมองจากภาคเอกชน
ดร.พงษธร โชติเกษมศรี ประธานกรรมการบริหารบริษัท วีลาล่า เสริมว่า บริษัทตั้งเป้าพัฒนา มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้เป็นศูนย์กลางวิจัยยาที่ตอบโจทย์ระดับโลก พร้อมสร้างโอกาสการจ้างงานในท้องถิ่น โดยในปี 2568 บริษัทจะเริ่มจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ในพื้นที่จำนวน 6-20 คน เพื่อร่วมงานในโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้อง
"เรามองว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสร้างฮับด้านการวิจัยยาที่มีมาตรฐานสูงสำหรับภูมิภาค โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรมีความพร้อมทั้งด้านสถานที่และบุคลากร เราพร้อมสนับสนุนเพื่อให้เป้าหมายนี้สำเร็จลุล่วง" ดร.พงษธรกล่าว
ระยะเวลาความร่วมมือและอนาคตของโครงการ
ความร่วมมือดังกล่าวจะดำเนินการในระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2567 ถึง 2 ธันวาคม 2570 โดยมุ่งเน้นการพัฒนางานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในอุตสาหกรรมสุขภาพระดับภูมิภาคและระดับโลก