สภาทนายความจับมือคณะนิติศาสตร์และหน่วยงานช่วยเหลือประชาชน ลงนาม MOU ยกระดับความยุติธรรมในสังคม

สภาทนายความร่วมลงนามคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ และหน่วยงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายทั้งภาครัฐและเอกชน

     วันที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 11.30 น. ณ ห้อง LT.1 อาคารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาการให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย

     การลงนามครั้งนี้นำโดย ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ พร้อมผู้แทนจากหลากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย

     - คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  

     - คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  

     - คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  

     - สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์  

     - คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ  

     - คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี  

     - คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง  

     - คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี  

     - คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี  

     - คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร  

     - กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม  

     - สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  

     - มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม  

วัตถุประสงค์ของความร่วมมือ

     การลงนาม MOU นี้มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมืออย่างเป็นระบบในการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย รวมถึงการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย และการเชื่อมโยงข้อมูลสภาพปัญหาจริงในสังคม เพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรมและสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน  

     ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมถึงการส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาความรู้ด้านกฎหมายให้แก่ประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังเน้นย้ำความสำคัญของการบูรณาการทรัพยากรและความเชี่ยวชาญจากทุกฝ่าย เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม  

      ดร.วิเชียร ชุบไธสง กล่าวว่า “การลงนามครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาควิชาการ ภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อยกระดับความช่วยเหลือทางกฎหมายให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมให้แก่ประชาชน”  

     สภาทนายความ และทุกหน่วยงานที่ร่วมลงนามพร้อมผลักดันให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม และคาดหวังว่าความร่วมมือนี้จะเป็นต้นแบบในการพัฒนากระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยในอนาคต