"เสี่ยโก้" เดินหน้าทวงคืนความยุติธรรม ยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีทุจริตวงการโฆษณา แก่สภาผู้แทนราษฎรและ สตง.
"ก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์" อดีตโปรโมเตอร์มวยโลก เดินหน้ายื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังพบกรณีทุจริตมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่ห้องแถลงข่าว อาคารรัฐสภา นายก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ อดีตโปรโมเตอร์มวยโลก และผู้บริหารบริษัทก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกรณีการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับองค์กรภาครัฐและบริษัทโฆษณาชื่อดัง โดยการกระทำดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดความเสียหายมหาศาล
นายก่อเกียรติ ระบุว่า ตนเป็นผู้ชนะการประมูลสัมปทานโฆษณา ขสมก. แต่กลับพบเจ้าหน้าที่รัฐบางรายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และดำเนินการโดยมิชอบ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียที่ร้ายแรงภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ยื่นหนังสือถึงสภาผู้แทนราษฎร
นายก่อเกียรติ เข้ายื่นหนังสือต่อ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 โดยมี นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ตัวแทนจากสำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร รับมอบหนังสือร้องเรียน พร้อมกันนี้ นายก่อเกียรติ ได้แสดงสัญลักษณ์ด้วยการสั่นระฆังหน้าศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องความสนใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป
กรณีนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการทุจริตที่ส่งผลกระทบวงกว้าง มีองค์กรภาครัฐเกี่ยวข้องโดยตรง และมูลค่าความเสียหายมากกว่า 5,000 ล้านบาท
เดินหน้าร้องเรียนถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
เวลา 11.30 น. วันเดียวกัน นายก่อเกียรติ เดินทางต่อไปยัง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อยื่นหนังสือถึง นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน โดยมี นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และโฆษกสำนักงาน เป็นผู้แทนรับหนังสือ
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีหน้าที่สำคัญในการตรวจสอบการเงินของหน่วยงานภาครัฐ โดยนายก่อเกียรติแสดงความคาดหวังว่า สตง. จะช่วยดำเนินการตรวจสอบกรณีนี้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
ยืนยันเจตนารมณ์คืนสิทธิ์และความยุติธรรม
นายก่อเกียรติกล่าวว่า การยื่นหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าการทวงคืนความยุติธรรมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองไทย ตนตั้งใจจะเดินหน้าต่อเพื่อเรียกร้องสิทธิที่ถูกต้อง รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อคืนความเป็นธรรมทั้งต่อตนเองและประชาชน
กรณีนี้สะท้อนถึงปัญหาการทุจริตที่ฝังรากลึกในหลายวงการ รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้ สังคมจับตาดูว่า การดำเนินการเรียกร้องของนายก่อเกียรติจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทุจริตที่แท้จริงได้หรือไม่