สภาทนายความฯ เผย คดีปลาหมอคางดำ เลื่อนนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม 21, 24, 30 ม.ค. 68 เรียกค่าเสียหาย 2.4 พันล้าน
สภาทนายความเดินหน้าคดีปลาหมอคางดำ สมุทรสงคราม
ศาลเลื่อนนัดไต่สวนคำร้อง ขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม 21, 24, 30 มกราคม 2568
สภาทนายความเร่งติดตามคดีปลาหมอคางดำที่ส่งผลกระทบต่อชาวประมงสมุทรสงคราม โดยเรียกค่าเสียหายจากบริษัทเอกชนจำนวน 2,486 ล้านบาท ในฐานะผู้ก่อให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาด ขณะนี้ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้กำหนดวันไต่สวนคำร้องดำเนินคดีแบบกลุ่มในวันที่ 21, 24 และ 30 มกราคม 2568
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 – ณ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เปิดเผยความคืบหน้าคดีการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งสร้างผลกระทบต่อชาวประมงในจังหวัดสมุทรสงคราม โดยทางสภาทนายความได้ดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทเอกชนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของการระบาดของปลาหมอคางดำ ทำให้ชาวประมงที่ประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
กลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ได้เรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 2,486,450,000 บาท ซึ่งเป็นค่าชดเชยจากรายได้ที่ขาดหายไปและสิทธิในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกละเมิด
ความคืบหน้าคดีในศาลแพ่งกรุงเทพใต้ แผนกคดีสิ่งแวดล้อม
วันนี้ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีการนัดไต่สวนคำร้องขออนุญาตดำเนินคดีแบบกลุ่ม โดยมีทนายโจทก์ที่ 1-10 และจำเลยที่ 1-9 เข้าร่วมการพิจารณา จำเลยยื่นคำคัดค้านการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ซึ่งทนายโจทก์ได้รับสำเนาแล้วและขอเวลาตรวจสอบ โดยแจ้งต่อศาลว่าต้องการไต่สวนพยานทั้งหมด 5 ปาก ในขณะที่ทนายจำเลยแถลงว่าต้องการสืบพยาน 7 ปาก ศาลจึงกำหนดเลื่อนนัดไต่สวนคำร้องนี้ไปเป็นวันที่ 21, 24, และ 30 มกราคม 2568 และให้คู่ความทั้งสองฝ่ายยื่นบันทึกถ้อยคำแทนการสืบพยานล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
คดีในศาลปกครองเกี่ยวกับหน่วยงานรัฐ
นอกจากนี้ ผู้ประกอบอาชีพประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่อำเภออัมพวาและอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม รวม 54 ราย ได้ยื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐรวม 18 หน่วยงานในข้อหาละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งรับฟ้องคดีและกำลังอยู่ในขั้นตอนที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นแก้ข้อกล่าวหา