นักวิ่ง-แฟนคลับนับพันคนกระทบไหล่ "เอเลียด คิปโชเก" มีตแอนด์กรี๊ด บรรยากาศอบอุ่นและสุดประทับใจ

นักวิ่ง-แฟนคลับนับพันคนกระทบไหล่ "เอเลียด คิปโชเก" ในกิจกรรมมีตแอนด์กรี๊ด บรรยากาศอบอุ่นและสุดประทับใจ

     เหล่านักวิ่งและแฟนคลับกว่า 1,000 คน ได้กระทบไหล่ "เอเลียด คิปโชเก" ตำนานนักวิ่งมาราธอนระดับโลกและเจ้าของแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัยชาวเคนยา ในกิจกรรม "ATMBKK2024 x RUNNING ZONE 10K & KIPCHOGE FAN MEET presented by SUPERSPORTS" ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ  

คิปโชเกร่วมสร้างสีสัน ก่อนศึกวิ่งมาราธอนระดับโลก

     กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวก่อนการแข่งขัน "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก พรีเซ็นต์บาย โตโยต้า ครั้งที่ 7" (Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วิ่งผ่าเมือง" ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 โดยปีนี้พิเศษสุดเมื่อ เอเลียด คิปโชเก ในฐานะ "ฑูตด้านการท่องเที่ยวกีฬาและวัฒนธรรม" ของประเทศไทย เดินทางมาร่วมวิ่งในระยะ 10 กิโลเมตร พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักวิ่งทั่วโลก

กิจกรรมสุดใกล้ชิด พร้อมนักวิ่งหลากหลายรุ่น

     ในงาน "ATMBKK2024 x RUNNING ZONE 10K & KIPCHOGE FAN MEET" คิปโชเกได้นำนักวิ่งและแฟนคลับร่วมวิ่ง 24 รอบสนามศุภชลาศัย คิดเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมหลากหลายวัย รวมถึงนักวิ่งทีมชาติไทยอย่าง "ณัฐวุฒิ-ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม" หรือ "บิ๊ก-เบล" คู่แฝดนักวิ่ง, "ลินดา จันทะชิด" และนักวิ่งผู้พิการที่มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ยังมี "คีริน ตันติเวทย์" นักวิ่งลูกครึ่งไทย-อเมริกันชื่อดัง เข้าร่วมชมงานอย่างใกล้ชิด

     ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังได้นำนักเรียนจากโรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ มาร่วมกิจกรรม โดยแสดงความเชื่อมั่นว่าการมาเยือนของคิปโชเกจะช่วยกระตุ้นให้คนไทยเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายและสร้างความตื่นตัวในวงการวิ่ง  

กิจกรรมไฮไลท์ ก่อนวันแข่งขันใหญ่

     ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 คิปโชเกจะร่วมพิธีพิมพ์มือ (Handprint Ceremony) ณ สวนเบญจกิติ เวลา 07.30 น. และร่วมงานแถลงข่าวที่โรงแรมปทุมวันปริ้นเซส เวลา 10.30 น. ก่อนเข้าสู่การแข่งขันวิ่ง "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024" ในวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งคาดว่าจะมีนักวิ่งร่วมงานนับหมื่นคน

  การแข่งขันครั้งนี้จะชิงถ้วยพระราชทานและเงินรางวัลรวมกว่า 2,440,500 บาท ถือเป็นงานวิ่งระดับโลกที่ดึงดูดนักวิ่งทั้งไทยและต่างประเทศ โดยกิจกรรมในปีนี้เน้นสร้างความประทับใจและปลูกฝังวัฒนธรรมการออกกำลังกายให้ยั่งยืน