ADS


Breaking News

สภท. ผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญพลังงานและสิ่งแวดล้อม จัดสัมมนาสื่อมวลชน มุ่งเน้นบทบาท “ไฟฟ้า” และ “การลดคาร์บอน” เพื่อพัฒนาพื้นที่ EEC

สภท. จับมือกูรูด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม จัดสัมมนาสื่อมวลชน ชู “ไฟฟ้า” คู่ “การลดคาร์บอน” หัวใจสำคัญของการพัฒนาในพื้นที่ EEC

     สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.) ร่วมกับ กระทรวงพลังงาน สำนักงาน EEC องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดงานสัมมนาสื่อมวลชนระดับภูมิภาค หัวข้อ “พลังงานไฟฟ้า: ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใน EEC และภาคกลาง” ชูแนวทางลดคาร์บอนในพื้นที่ โดยงานจัดขึ้น ณ โรงแรม ซีทู พูล วิลล่า รีสอร์ท พัทยา มีสื่อมวลชนจากจังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ร่วมฟังการบรรยาย
     นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ครอบคลุมจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง มีศักยภาพสูงในด้านการขนส่งและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม การส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้เพียงพอและมีเสถียรภาพจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมและการลงทุนจากต่างประเทศในระยะยาว
นายอนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.)
     ดร.ธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย EEC กล่าวในบรรยายพิเศษเกี่ยวกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจว่า ปัจจุบัน EEC มีความสำคัญในการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยเพื่อลดต้นทุนและเวลาในการขนส่ง พัฒนานวัตกรรมดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงมุ่งจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ โดยพื้นที่ EEC มีผู้ใช้ไฟฟ้าราว 1.3 ล้านราย คิดเป็นการใช้ไฟฟ้าสูงสุดประมาณ 4,000 เมกะวัตต์ หรือ 15% ของประเทศ ซึ่งเน้นการเชื่อมต่อพลังงานจากโรงไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ จ.นนทบุรี และโรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต
     น.ส.ชฎารัตน์ สุนทรเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 13 กล่าวถึงภาพรวมความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และครัวเรือนหลังสถานการณ์ COVID-19 โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้จัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า พ.ศ. 2567 - 2580 (PDP2024) ซึ่งเน้นลดคาร์บอนและส่งเสริมพลังงานสะอาด เช่น พลังงานหมุนเวียนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางพลังงานโลก
     นายรองเพชร บุญช่วยดี รองผู้อำนวยการ อบก. กล่าวเสริมว่า ในปีนี้การปล่อย CO2 ของประเทศไทยลดลง 3.3% จากนโยบายพลังงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมพลังงานสะอาด ส่งผลให้ระดับ CO2 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ทั้งนี้ ประเทศไทยมุ่งหวังบรรลุเป้าหมายการลดการปลดปล่อยคาร์บอนตามเป้าหมายแห่งชาติ
     นายสมโชค พาหุบุตร ผู้อำนวยการโครงการเสริมความมั่นคงระบบส่งไฟฟ้า กฟผ. กล่าวถึงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าพื้นที่ EEC ด้วยสายส่งไฟฟ้าแรงสูงและสถานีไฟฟ้าใหม่เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษ โดยโครงการนี้มีการเชื่อมโยงพลังงานจากโรงไฟฟ้าหลักทั้งในกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ เพื่อให้มั่นคงต่อการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
     นายอนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.) กล่าวถึงความสำคัญของสัมมนาครั้งนี้ที่เป็นช่องทางให้สื่อมวลชนได้รับความรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม อัปสกิลและเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อสื่อสารบทบาทสำคัญของ EEC และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคกลางอย่างยั่งยืน