สวพส. นำชุมชนบ้านปางมะกล้วยเข้าร่วมโครงการคาร์บอนเครดิต มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง
"สวพส. หนุนชุมชนบ้านปางมะกล้วย” เข้าร่วมโครงการคาร์บอนเครดิต เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง
ชุมชนบ้านปางมะกล้วย ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ มีประชากร 364 ครัวเรือน 836 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพื้นเมืองและชนเผ่ากะเหรี่ยง โดยชุมชนนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ลา-แม่แสะ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 16,087 ไร่ ชุมชนมีการทำเกษตรกรรมที่ผสมผสานระหว่างการปลูกพืชดั้งเดิมและพืชอื่นๆ ภายใต้ระบบอนุรักษ์ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาชุมชนและการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ได้เข้ามาสนับสนุนการพัฒนาชุมชนบ้านปางมะกล้วย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการเกื้อกูลป่าและการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ชุมชนมีการปรับเปลี่ยนวิถีการเกษตรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกชาเมี่ยงและพืชสมุนไพรท้องถิ่นอื่นๆ โดยไม่บุกรุกป่า ทั้งยังได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมโครงการคาร์บอนเครดิตผ่านโครงการ T-VER ของกรมป่าไม้
การพัฒนาที่เน้นความยั่งยืน
นายศุภกฤต วรนันสิทธิ์ หัวหน้าศูนย์โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงป่าแป๋ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง หรือ สวพส. เปิดเผยว่า ชุมชนบ้านปางมะกล้วยได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิดการอยู่ร่วมกับป่าอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีการใช้พลังงานหมุนเวียน ปลูกป่าอนุรักษ์ และส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ทำให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้จากพืชพื้นเมืองและสมุนไพร เช่น รางจืด กาแฟ และชาอัสสัม ซึ่งชาอัสสัมจากบ้านปางมะกล้วยเป็นที่ต้องการในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เช่น โปแลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก
โอกาสสำหรับคนรุ่นใหม่และความร่วมมือเพื่อการเติบโต
โครงการนี้ยังเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ในชุมชนได้กลับมาทำงานในถิ่นฐานบ้านเกิดผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจและการพึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืน เช่น การเปิดร้านกาแฟในชุมชนเพื่อเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรมและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขยายตลาด โดยเฉพาะการใช้ตลาดออนไลน์
ผลสัมฤทธิ์ของการมีส่วนร่วมของชุมชน
การทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ทำให้ชุมชนมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น โดยครัวเรือนในชุมชนบ้านปางมะกล้วยมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 130,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ ระบบนิเวศป่าไม้ยังได้รับการฟื้นฟูและคงความอุดมสมบูรณ์ ส่งเสริมให้คนในชุมชนมีความรู้และพร้อมใจดูแลรักษาป่าอย่างยั่งยืน
การเข้าร่วมโครงการคาร์บอนเครดิตนี้ ไม่เพียงช่วยเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอน แต่ยังสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน