ADS


Breaking News

ศุกรีย์ ยืนหนึ่งนายกเพาะกายสมัย 3

ศุกรีย์ นั่งเก้าอี้นายกเพาะกายสมัย 3
    ไม่มีพลิกโผ ศุกรีย์ สุภาวรีกุล ได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิก ให้เป็น นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เป็นสมัยที่ 3 พร้อมวางนโยบาย เพาะกายปลอดโด๊ป ผลักดันนักกีฬายึดมือ 1 เอเชีย และโลก 
     นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ห้องสกาย ชั้น 18 โรงแรมอเล็กซานเดอร์ หัวหมาก โดยมีสโมสรสมาชิกเข้าร่วมประชุมครบถ้วน แบ่งเป็นสมาชิกสามัญ 17 สโมสร ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง และสมาชิกวิสามัญ 10 สโมสร แต่ไม่มีสิทธ์เลือกตั้ง
   สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ เนื่องจากชุดเก่าหมดวาระการทำงาน เพราะครบ 4 ปี แล้ว โดยที่ประชุม ได้มีมติเลือก นายบุญชัย แซ่แต้ กรรมการและผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมฯ ให้เป็นประธานชั่วคราวในการเลือกตั้ง โดยมีสโมสรสมาชิก ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง 17 สโมสร ปรากฏว่า ที่ประชุมมีการเสนอชื่อ นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เพียงคนเดียว เป็นนายกสมาคมฯ และได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิกให้เป็นนายกสมาคมฯ เป็นสมัยที่ 3
     นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เริ่มต้นจากการเป็น เลขาธิการสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทยก่อน และในปี 2559 ก็ได้รับความไว้ใจให้เป็นนายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ต่อจาก นายภัคพงษ์ เกรียงศักดิ์ และในปีนี้ เป็นสมัยที่ 3 เป็นระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2567-2571
      นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขอขอบคุณค่ายสมาชิกที่ไว้ใจให้เป็นนายกสมาคมฯ อีกสมัย เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน โดยการบริหารงานในสมัยที่ 3 นั้น มีนโยบาย เพื่อให้เพาะกายเป็นกีฬามวลชน ให้ผู้สูงอายุ สามารถเข้าถึงได้ และครบถ้วนทุกระดับอายุ นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ต้องการให้เพาะกาย เป็นกีฬาที่ปราศจากสารต้องห้าม ซึ่งเป็นสิ่งที่สหพันธ์เพาะกายแห่งเอเชีย และสหพันธ์เพาะกายโลก เน้นในสิ่งนี้ เป็นพิเศษ
    นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ต้องการพัฒนาบุคลากร ของกีฬาเพาะกาย ให้สามารถใช้กีฬาเพาะกาย สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ ทำให้ผลงานนักกีฬา อยู่ในระดับแถวหน้าของเอเชียและโลกอย่างยั่งยืนต่อไป เนื่องจาก ทางสมาคมฯ มีนโยบาย เยียร์ ออฟ ซัสเทนเนเบิล เพาะกายจะเป็นปีแห่งความยั่งยืน
   สำหรับกรณีที่ นักกีฬาเพาะกาย ยังไม่ได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขันเพาะกายชิงแชมป์โลก ที่ภูเก็ต, เพาะกายชิงแชมป์เอเชีย ที่เนปาล, เพาะกายชิงแชมป์โลก ที่เกาหลีใต้ 3 รายการ เป็นเงินรางวัลที่ค้างจากทางกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ และ ปีนี้ รายการล่าสุด เพาะกายชิงแชมป์เอเชีย ที่อินโดนีเชีย ทางผู้หลักผู้ใหญ่ นำไปพิจารณาและช่วยเหลือให้ ไปอยู่ในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ก็อยากฝากย้ำสำหรับผู้ใหญ่ ว่า อย่าลืมผลงานของนักกีฬาเพาะกาย ซึ่งทุกคนเห็นผลงานของกีฬาโอลิมปิก ที่ได้รางวัล ได้เงินอัดฉีด ก็อยากจะบอกว่า อย่าลืมนักกีฬาเพาะกายด้วยนะครับ ส่วนของรางวัลของนักกีฬาเพาะกายนั้น น่าจะได้รับข่าวดี
   สำหรับการจัดการแข่งขัน หนุ่มกายงาม สาวกล้ามสวย ที่เซ็นทรัล บางนา วันที่ 23-24 พ.ย.ครั้งนี้ จะมีการแข่งขันอีเวนท์ ของ LGBTQ+ (แอลจีบีทีคิว พลัส) ฟิสิค คอนเทสต์ ให้ได้ลงแข่งขันประเภทหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการสาธิตพวกข้ามเพศมาแล้ว
   นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังได้ร่วมมือกับ ทาง  สหพันธ์เพาะกายแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทาง ดร. ภูมิวรินทร์ ชุณหะวงษ์วริศ ประธานสหพันธ์เพาะกายแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้ร่วมกับ อินเดีย เมียนมา เวียดนาม ส่งคนมาแลกเปลี่ยน เรื่องของการบริหาร การจัดการแข่งขัน แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับโค้ช กับทางประเทศไทย เพื่อการพัฒนาต่อยอดและก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคต