สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ฯ ทรงเปิดงานชุมนุมกาชาด ครั้งที่ 12 พ.ศ. 2567 เฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานชุมนุมกาชาด ครั้งที่ 12 ประจำปี พ.ศ. 2567 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 และทรงปาฐกถาพิเศษ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินประทับโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ไปยังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ นงนุชพัทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทรงเปิดงานชุมนุมกาชาด ครั้งที่ 12 ประจำปี พ.ศ. 2567 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 และทรงปาฐกถาพิเศษ โดยมี เลขาธิการสภากาชาดไทย เหรัญญิกสภากาชาดไทย คณะกรรมการสภากาชาดไทย คณะกรรมการดำเนินงานจัดงานชุมนุมกาชาด ครั้งที่ 12 ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และคณะ เฝ้าฯ รับเสด็จ
จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องประชุมใหญ่ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิกสภากาชาดไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายสูจิบัตร นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย และผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด ประธานคณะกรรมการดำเนินงานจัดงานชุมนุมกาชาด ครั้งที่ 12 เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเข็มที่ระลึกงานชุมนุมกาชาด ครั้งที่ 12 นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย กราบบังคมทูลรายงานและกราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการคุณเข้ารับพระราชทานของที่ระลึก (จำนวน 80 ราย)
จากนั้น ทรงมีพระราชดำรัสเปิดงาน “งานชุมนุมกาชาด ครั้งที่ 12” และทรงแสดงปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “สภากาชาดไทยในศตวรรษที่ 21” โอกาสนี้ เสด็จพระราชดำเนินไปยังโถงแสดงนิทรรศการ เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการประวัติความเป็นมาของสภากาชาดไทย “ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย” (ตั้งแต่รัชกาลที่ 5 - รัชกาลปัจจุบัน) นิทรรศการหน่วยงานของสภากาชาดไทย และนิทรรศการภารกิจของเหล่ากาชาดจังหวัดและกิ่งกาชาดอำเภอ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังสวนนงนุชพฤกษศาสตร์ เพื่อทอดพระเนตรต้นมะพร้าวทะเลทรงปลูก และเสด็จพระราชดำเนินไปยังพิพิธภัณฑ์หัวโขน
สภากาชาดไทย ได้จัดงานชุมนุมกาชาดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2508 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เหล่ากาชาดจังหวัด กิ่งกาชาดอำเภอ และสภากาชาดไทยส่วนกลาง ได้ทำกิจกรรม พบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ซึ่งกันและกัน อันจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีในการประสานประโยชน์ให้กับการปฏิบัติภารกิจของสภากาชาดไทยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมได้รับความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักในบทบาทหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อมนุษยธรรม ตามหลักการกาชาด 7 ประการ เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ด้านการบริการอาสาสมัครและการทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคม และเพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีและสร้างเครือข่ายระหว่างสภากาชาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัด และกิ่งกาชาดอำเภอ
สภากาชาดไทย ได้จัดให้มีงานชุมนุมกาชาดมาแล้ว จำนวน 11 ครั้ง ตามมติการประชุมกรรมการสภากาชาดไทย ครั้งที่ 139 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2507 ได้กล่าวถึง การประชุมของเหล่ากาชาดจังหวัด ซึ่ง ภายหลังจัดตั้งเหล่ากาชาดจังหวัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2504 ยังมิได้มีการประชุมพบปะกันอีกเลย สภากาชาดไทยจึงเห็นควรให้มีการประชุมกันอีก โดยเป็นการประชุมของเหล่ากาชาดจังหวัดและผู้แทนอนุกาชาดทุกจังหวัด เพื่อแจ้งเรื่องที่สมควรจะให้ทราบโดยทั่วกัน และเห็นสมควรที่จะให้มีการจัดเป็นประจำชุมนุมกาชาด ครั้งที่ 1 กำหนดการจัดงาน 5 วัน โดยคณะกรรมการเจ้าหน้าที่กำหนดให้มีการจัดประชุมแบบ Convention เรียกว่า “ชุมนุมกาชาดครั้งที่ 1” ขึ้น ระหว่างวันที่ 7-11 พฤษภาคม พ.ศ. 2508 ณ สถานพักฟื้นสวางคนิวาส จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดได้รับความรู้เกี่ยวกับงานของสภากาชาดไทยรวมทั้งเป็นโอกาสที่ได้มาพบปะสังสรรค์กัน
ในปี 2567 นี้ สภากาชาดไทยกำหนดจัดงานชุมนุมกาชาด ครั้งที่ 12 ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อสืบสานปณิธาน และต่อยอดภารกิจการเป็นที่พึ่งของประชาชนด้วยยุทธศาสตร์ “สภากาชาดไทยในศตวรรษที่ 21”