สจล. ผสานพลัง ม.ชั้นนำไต้หวัน จัดตั้งสถาบัน KAISM เขตพัฒนาพิเศษ EEC จ. ฉะเชิงเทรา ปั้นหลักสูตรตอบโจทย์ความต้องการบุคลากรด้าน Semiconductor และ Smart Electronics
สจล. ผนึกกำลัง มหาวิทยาลัยชั้นนำไต้หวัน จัดตั้งสถาบัน KAISM เขตพัฒนาพิเศษ EEC จ. ฉะเชิงเทรา สร้างหลักสูตรตอบโจทย์ความต้องการบุคลากรด้าน Semiconductor และ Smart Electronics ในอนาคต
เมื่อวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2567 – รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ( สจล.) รองศาสตราจารย์ ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ พร้อมด้วยผู้บริหาร สจล. ได้ร่วมหารือกับผู้บริหาร นักวิจัยของ Chang Gung University (CGU) และ Ming Chi University of Technology และเยี่ยมชม Semiconductor Lab เพื่อวางแผนหลักสูตร 2 ปริญญา (Double Degree) การแลกเปลี่ยนอาจารย์ นักศึกษา และพบกับนักศึกษา สจล.ที่มาทำวิจัยที่ CGU พร้อมผลักดันให้สจล. เป็นศูนย์กลางสำหรับการ Reskill/ Upskill ทางด้าน Smart Electronics ในอนาคต
นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไต้หวัน หารือกับผู้บริหารและบุคลากรศูนย์ Academy of Innovative Semiconductor and Sustainable Manufacturing (AISSM) “National Cheng Kung University (NCKU)” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับในระดับนานาชาติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านวิชาการ โดยมีการหารือถึงแนวทางการจัดตั้ง KMITL Academy of Innovative Semiconductor Manufacturing (KAISM) ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เพื่อสร้างหลักสูตรตอบโจทย์ความต้องการทักษะ Semi-Conductor และ Smart Electronics ตอบสนองความต้องการบุคลากรด้านนี้ของตลาดโลกในอนาคต รวมทั้งการหารือถึงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา สจล. มี Global Citizen Skill นำไปสู่การพัฒนาตัวเอง
รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย National Cheng Kung University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของไต้หวัน เพื่อผลักดันหลักสูตรด้าน Smart Electronics นับว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในระดับโลก โดยทั้ง 2 สถาบันจะมุ่งเน้นการออกแบบหลักสูตรเพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาทักษะความรู้ที่เกี่ยวข้องทางด้าน Smart Electronics และ Semiconductor ทำให้นักศึกษาไทยได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในระดับโลก โดยเฉพาะได้มีโอกาสฝึกฝนจากประสบการณ์จริง สามารถยกระดับศักยภาพกับ การฝึกงานร่วมกับ ภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สำคัญที่จะทำให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วมีเส้นทางอาชีพที่สอดรับกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เพื่อเตรียมพร้อมในด้านของการพัฒนาหลักสูตรร่วมกันต่อไปอีกด้วย
ติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th และติดตามรายละเอียดหลักสูตรที่เปิดสอนได้ที่ https://curriculum.kmitl.ac.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000