ADS


Breaking News

เอ็มโอยู “หลักสูตรการยุติความรุนแรง ลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ”

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ“หลักสูตรการยุติความรุนแรง ลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ”
     กรุงเทพฯ ประเทศไทย — 18  ธันวาคม 2566 — กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ“หลักสูตรการยุติความรุนแรง ลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ” พิธีนี้เป็นการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของความคิดริเริ่มที่ก้าวล้ำที่มุ่งยุติความรุนแรงและลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติตามอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน และเอกอัครราชทูตโรเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย พร้อมแขกผู้มีเกียรติจากสหประชาชาติ นายเรโนด์ เมเยอร์ ผู้แทนประจําโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ในประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดีอย่างสุดซึ้งในโอกาสนี้
     การพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมที่ครอบคลุมในหัวข้อ "หลักสูตรการยุติความรุนแรง ลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ" เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล และสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานทูตสหรัฐฯ ผ่านทาง the U.S. President's Emergency Plan for AIDS Relief (PEPFAR) ผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development - USAID) เพื่อกระจายแหล่งเงินทุนโดยดําเนินการตามแผนความยั่งยืนด้วยการพัฒนารูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (วิสาหกิจเพื่อสังคม) การจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากสํานักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) วัตถุประสงค์หลักของหลักสูตร คือ การเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชนโดยเฉพาะชุมชน LGBTQI+ โดยการส่งเสริมความเข้าใจและส่งเสริมความหลากหลายทางเพศเพื่อลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติ หลักสูตรการฝึกอบรมนี้ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อเริ่มต้นกระบวนการขัดเกลาทางสังคมทางเพศในหมู่เยาวชนและสังคมโดยรวม ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาผู้นําที่สามารถให้ความช่วยเหลือและป้องกันผู้ที่เผชิญกับความรุนแรง การตีตรา การเลือกปฏิบัติและการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายในชุมชนของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ USAID มุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อให้สามารถขยายโปรแกรมให้ครอบคลุมภาคเอกชนและภาครัฐต่างๆ เพื่อตอกย้ำความสามารถในการสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนต่อชุมชน
     นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า  การศึกษาและพัฒนาหลักสูตรเพื่อยุติความรุนแรง ลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ โดยสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญ เป็นกระบวนการในการออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับทุก ๆ บริบท และองค์กร ซึ่งจะช่วยการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ให้หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป มีความคิดที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศ ตระหนักรู้และยอมรับการดำรงอยู่และสิทธิของบุคคลเพศอื่น ๆ นอกเหนือจากชายและหญิง ซึ่งมีความสอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชนสากลตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ความเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเราสร้างพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ การสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นของการสร้างสังคมที่รับรู้ความแตกต่างเพศและสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและสร้างสรรค์ได้แก่ทุกคนในสังคม ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาคีเครือข่ายทุกท่านในวันนี้จะร่วมกันการผลักดัน สนับสนุน การยุติความรุนแรง ลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศในสังคม เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างยั่งยืน ต่อไป
     สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่อุทิศตนรับใช้มา 25 ปี ให้ความสําคัญอย่างยิ่งกับการเพิ่มขีดความสามารถของชุมชน สุขภาพ และสิทธิมนุษยชน สมาคมมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพึ่งพาตนเองและยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกในชุมชนจากทุกสาขาอาชีพเพื่อช่วยให้ประเทศไทยสร้างสังคมที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้นตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ดังนั้นสมาคมจึงตระหนักถึงความสําคัญของการพัฒนาขีดความสามารถของแต่ละบุคคลสร้างความรู้ความเข้าใจขององค์กรและสร้างความตระหนักทางสังคมในการขจัดอคติต่อเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่นําไปสู่การตีตราและการเลือกปฏิบัติตลอดจนการกระทําความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงคนข้ามเพศและคนที่มีความหลากหลายทางเพศ สมาคมฯ ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติความเท่าเทียมทางเพศ พ.ศ. 2558 (2015) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลได้รับการคุ้มครองและปกป้องตามเพศของพวกเขา