ADS


Breaking News

อดีต ส.ส. "อนุรักษ์" แถลงใหญ่เหตุถูกกลั่นแกล้ง ในคดีตบทรัพย์ 5 ล้านบาท หลังพบพิรุธใน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล

นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตั้งโต๊ะแถลงแจงมูลเหตุของคดีที่ถูกกลั่นแกล้ง ในคดีตบทรัพย์ 5 ล้านบาท หลังพบพิรุธทุจริตใน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล

     จากกรณีที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.4/2565 สั่งลงโทษ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย จำคุก 6 ปี และให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. 65 เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดไป ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ กรณีอัยการสูงสุดเป็นผู้ฟ้อง  เรียกรับสินบนจำนวน 5 ล้านบาท จาก นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เมื่อครั้ง นายอนุรักษ์ ดำรงตำแหน่งรองประธานอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ใน กรรมาธิการฯ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในการพิจารณางบประมาณ โครงการขุดเจาะน้ำบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์

     โดย นายอนุรักษ์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงกล่าวชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวตนไม่รับความเป็นธรรมและถูกกลั่นแกล้งจากนายศักดิ์ดาและคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทำสำนวนส่งฟ้องศาล จนถูกสั่งจำคุกและได้ต่อสู้ยื่นเรื่องให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงร้องเรียนกับทางสื่อมวลชนหลายสำนัก โดยวันนี้แบ่งออกเป็น 4 ประเด็น คือ

  1. เรื่องหลักฐานเกี่ยวกับมูลเหตุจูงใจที่ นายศักดิ์ดา อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวหาตนว่าตกทรัพย์ 5 ล้านบาท หลังตนเสนอให้ตรวจสอบการเบิกงบประมาณของกรมน้ำบาดาล การคิดค่าขุดเจาะน้ำบาดาลต่อบ่อในราคา 171,000 ต่อหลุม ทั้งๆที่รถเจาะก็เป็นของหลวง คนไปเจาะก็เป็นเจ้าหน้าที่ของกรมที่มีเงินเดือน อยู่แล้ว และยังสามารถเบิกค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พักได้อีก จึงขอแบบแปล และประมาณราคามาตรวจสอบ แต่กรมก็ไม่เคยส่งแบบแปลนและประมาณราคาดังกล่าวให้ ซึ่งเป็นการเข้าข่ายทุจริตงบประมาณแผ่นดิน ที่ทางศาลฯยังไม่ได้เห็น จึงเป็นเหตุทำให้ศาลฯพิพากษาตน ซึ่งตนก็ยอมรับคำตัดสิน แต่หลังจากนี้จะรอคำพิจารณาใหม่อีกครั้งหลังเข้ายื่นอุทรธ์ต่อศาลไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2566
  2. คณะกรรมการป.ป.ช.ไม่ได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตปี 2561 มาตรา 50 ในชั้นไต่สวนพยานของตน ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เรียกพยาน สามคนคือ 1) พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง 2) นายชาดาไทยเศรษฐ์ และ 3) นายจักรัตน์ พั้วช่วย แต่คณะกรรมการป.ป.ช.ไม่ได้เรียกพยานทั้งสามปากที่ตนขอมาสอบปากคำ โดยอ้างเหตุผลว่าผมจงใจประวิงคดี ทั้งๆที่เหลือเวลาอีก 861 วัน จึงจะครบตามกฎหมายกำหนด ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ช.จงใจปกปิดคำให้การของส.ส. ศรัณวุติ ศรัณย์เกต ที่เป็นคุณกับจำเลย
  3. ตนจะตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำโดยไม่ชอบ เพื่อผลประโยชน์ต่อผู้บริสุทธิ์และแผ่นดิน
  4. สำหรับกรณีที่สื่อมวลชนต่างๆที่ผมได้ฟ้องร้องไปผมยินดีจะถอนฟ้องให้สื่อมวลชนทุกแขนง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเปิดโอกาสให้ผมได้เข้าไปพูดถึงข้อเท็จจริงในคดีในฝั่งผมบ้าง ที่ผ่านมาผมไม่เคยมีโอกาสได้พูดข้อเท็จจริงในสำนวนคดีเลย แต่สื่อมวลชนต่างๆก็ได้เอาข่าวผมไปออกเหมือนผมเป็นผู้กระทำผิดไปแล้ว ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผมอย่างยิ่ง

     อย่างไรก็ตาม ตนได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายศักดา 4 คดี ในข้อหาตามมาตรา 162 (1)(4) เรื่องรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา 8 ครั้ง ขณะนี้อยู่ที่ศาลทุจริตกลาง 2. หมิ่นประมาทที่ศาล จ.กาญจนบุรี 3. ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน ที่ศาลจ.นนทบุรี 4. เบิกความเท็จ ที่ศาลอาญารัชดา ซึ่งทั้งหมดนี้ตนมีพยานหลักฐานทั้งหมด เชื่อว่าหน่วยงานยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมต่อตน หลุดพ้นคดีและกอบกู้ชื่อเสียงกลับมา