ซินโครตรอนตอบโจทย์วิจัยสารจากเห็ดหลินจือสู่ครีมลดเซลลูไลท์
ซินโครตรอนช่วยวิจัยสารจากเห็ดหลินจือสู่ครีมลดเซลลูไลท์
นักวิจัยจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับ นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ใช้ซินโครตรอนหาตำแหน่งของเห็ดหลินจือที่มีโปรตีนสูงสุด เพื่อพัฒนากรรมวิธีสกัดสารจากเห็ดหลินจือ สำหรับต่อยอดเป็นครีมทาลดการสะสมของเซลลูไลท์
รศ.ดร.เกียรติทวี ชูวงศ์โกมล
ดร.บัวบาล กัวประเสริฐ นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียงแสง สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน
ผศ.ดร.ปวิตตราภรณ์ สมุทรทัย |
นายยอดยิ่ง ยิ่งชูตระกูล |
ดร.สุชีวิน กรอบทอง |
นครราชสีมา - ดร.บัวบาล กัวประเสริฐ นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียงแสง สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า “ดร.สุชีวิน กรอบทอง และ รศ.ดร.เกียรติทวี ชูวงศ์โกมล ร่วมกับทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้แก่ นายยอดยิ่ง ยิ่งชูตระกูล และ ผศ.ดร.ปวิตตราภรณ์ สมุทรทัย ให้ความสนใจสารสกัดจากเห็ดหลินจือประเภทโปรตีนไฮโดรไลเสท ซึ่งมีฤทธิ์ในการลดการสะสมไขมันในเซลล์ จึงได้ร่วมกันพัฒนากรรมวิธีสกัดสารจากเห็ดหลินจือ เพื่อพัฒนาเป็นครีมทาสำหรับลดการสะสมของเซลลูไลท์”
สำหรับเซลลูไลท์นั้นเป็นลักษณะผิวหนังที่เป็นรอยบุ๋ม ขรุขระ ที่มักพบบริเวณสะโพก ต้นขา ท้องน้อย หน้าอก และต้นแขน ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดเซลลูไลท์ที่แน่ชัด แต่พบความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) และชั้นเนื้อเยื่อเซลล์ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังกำพร้า นอกจากนี้ยังพบว่า ฮอร์โมนและอายุมีผลสำคัญต่อกระบวนการเกิดเซลลูไลท์
ในการพัฒนากรรมวิธีสกัดสารจากเห็ดหลินจือนั้น ทีมวิจัยได้ร่วมกับ ดร.บัวบาล กัวประเสริฐ ใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนที่เรียกว่าเทคนิคฟูเรียร์ทรานส์ฟอร์มอินฟราเรดไมโครสเปกโตรสโคปี (synchrotron FTIR microspectroscopy) เพื่อระบุตำแหน่งของโปรตีนที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของเห็ดหลินจือที่นำมาศึกษาซึ่งเป็นการวัดปริมาณโปรตีนแบบไม่ทำลายตัวอย่างและสามารถวิเคราะห์ผลได้อย่างรวดเร็ว เมื่อทราบตำแหน่งของเห็ดหลินจือที่มีโปรตีนสูงสุดแล้ว จึงนำส่วนดังกล่าวไปสกัดให้ได้โปรตีนไฮโดรไลเสทสำหรับผลิตเครื่องสำอางต่อไป
“พบว่าบริเวณส่วนดอกของเห็ดหลินจือมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าส่วนก้านดอกอย่างชัดเจน โดยพิจารณาจากปริมาณโปรตีนเชิงสัมพัทธ์ในรูปแบบการวิเคราะห์ด้วยแผนภูมิความร้อนที่รายงานโปรตีนไล่ตามเฉดสี ผลการวิเคราะห์นี้ทำให้ได้กรรมวิธีใหม่ในการสารสกัดโปรตีนไฮโดรไลเสทจากเห็ดหลินจือ ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการสะสมไขมันของเซลล์ไขมัน นอกจากนี้เมื่อทดสอบความเป็นพิษกับเซลล์ผิวหนังปกติ และเซลล์ไฟโบรบลาสต์ อีกทั้งสารสกัดโปรตีนโดรไลเสทจากเห็ดหลินจือไม่ส่งผลให้เซลล์ตายอีกด้วย” ดร.บัวบาล กัวประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย