ADS


Breaking News

ประธาน กสว. เผยความก้าวหน้า 4 ปี กระทรวง อว. พร้อมเปิดใจมิชชั่นแรกเมื่อมีรัฐบาลใหม่

ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประเมินความก้าวหน้า 4 ปี กระทรวง อว. พร้อมเปิดใจมิชชั่นแรกเมื่อมีรัฐบาลใหม่
      ศ. กิตติคุณ นพ. สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เชิญสื่อมวลชนร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารทิพวัลย์ บางเขน เมื่อ 9 พฤษภาคม 2566 พร้อมเปิดใจในฐานะผู้มีบทบาทร่วมก่อตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ในโอกาสครบรอบ 4 ปี ว่า มีความพอใจในการตอบสนองตามเป้าหมายที่วางไว้ในระดับหนึ่ง โดย 4 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงจากการปฏิรูป 3 ระบบคือ 1. ปฏิรูปการอุดมศึกษา 2.ปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรม และ 3.ปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเดิมทั้งหมดนี้แยกส่วนกันอยู่ เมื่อมีการปฏิรูปก็ทำให้มาทำงานร่วมกันได้โดยการสั่งการจากคนๆเดียว 
   การขับเคลื่อนที่เห็นชัดเจนที่สุดมี 2 ด้าน ด้านแรกคือด้านอุดมศึกษาซึ่งกระทรวงเปิดเงื่อนไขต่างๆจากเดิมที่ค่อนข้างวิกฤติคนไม่สนใจปริญญาและเห็นว่ารูปแบบเดิมล้าสมัย มีการเอื้อประโยชน์มากขึ้นโดยการไม่จำกัดเวลาเรียนและสามารถเรียนข้ามมหาวิทยาลัยได้ แต่ยังต้องดูผลในระยะยาวต่อไปว่าเมื่อออกเป็นนโยบายโดย อว. แล้ว สภามหาวิทยาลัยรับไปทำแค่ไหน ส่วนที่สองที่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนคือ ระบบวิจัยแต่เดิมต่างคนต่างทำ ตอนนี้ต้องทำภายใต้นโยบาย มีการตรวจสอบ ทำให้งานวิจัยเป็นไปตามที่เราต้องการมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงขณะนี้คือ เจ้าของงานที่ได้รับทุนไปก็เป็นเจ้าของผลงานได้ ไม่ใช่ให้เจ้าของทุนเป็นเจ้าของผลงานเหมือนเดิม 
    อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากในช่วง 4 ปีของกระทรวง อว. แต่สิ่งที่ยังไม่ค่อยเดินมากนักคือระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งเขาก็พยายามพัฒนาแต่ละส่วนขึ้นมา ดีขึ้นแต่ยังไม่เห็นภาพชัด สิ่งที่เราอยากเห็นมากขึ้นคืออาจารย์ต้องทำงานกับสถาบันวิจัยและภาคเอกชนให้มากขึ้น และคนไทยต้องช่วยกันสนับสนุนใช้ของที่ผลิตโดยคนไทย
    ประธาน กสว. กล่าวถึง การเปลี่ยนรัฐบาลและตัว รมว.อว. คนใหม่ที่จะเข้ามาว่า ที่ผ่านมามีการยกร่างกฏหมายซึ่งผู้กำกับดูแลกระทรวง อว. มีความสำคัญส่วนหนึ่งแต่จะไม่ขึ้นลงตามการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีแต่ละคนเหมือนก่อนเพราะมีการวางระบบเป็นคณะกรรมการ เช่นระบบอุดมศึกษามีคณะกรรมการถึง 2 ชุด รมว. จะสั่งซ้ายหันขวาหันคงเป็นไปได้ยาก หากมีแนวคิดอะไรใหม่ๆต้องผ่านคณะกรรมการ 2 ชุดนี้ก่อน ในระบบการวิจัยและนวัตกรรมก็เช่นกัน มีการทำงานเป็นคณะกรรมการขึ้นตรงต่อสภานโยบายซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่เสนอแนะและขับเคลื่อน ดังนั้นการเปลี่ยนตัว รมว.อว. ไม่ได้มีผลมากนัก แต่ก็ต้องรับฟังเพราะถือเป็นผู้มาจากการเมืองในภาคประชาชน แต่ก็คงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มากนัก
    “ที่ผ่านมางานด้านวิจัยและนวัตกรรมเรายุบกรรมการต่างๆไปมาก เพื่อให้มีสภานโยบายอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมซึ่ง นรม(นายกรัฐมนตรี) เป็นประธาน จึงหวังว่ารัฐบาลใหม่ นรม จะมานั่งเป็นประธานไม่ใช่ส่งตัวแทนมา ดังนั้นเมื่อตั้งรัฐบาลใหม่เมื่อไร คงเป็นมิชชั่นแรกที่จะต้องทำคือ ขอเข้าพบ นรม และขอให้ท่านมานั่งเป็นประธาน
     ในตอนท้าย ประธาน กสว. กล่าวแสดงความยินดีที่ 4 ปีเงินกองทุน ววน ได้เพิ่มขึ้นตามที่ต้องการโดยในช่วง 3 ปีแรกเราได้รับเฉพาะงานวิจัยและนวัตกรรม หลังจากมีการจัดระเบียบดีแล้ว ปีนี้เราได้ส่งเรื่องถึงสำนักงบประมาณให้เงินกองทุนครอบคลุมถึงการใช้พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามที่กฏหมายกำหนดด้วย จึงได้เพิ่มมา 1,500 ล้านบาทจากที่เสนอขอไป 5,000 ล้านบาท งบประมาณที่เป็นตัวเลขกลมๆที่ได้รับในปีนี้อยู่ที่ 18,000 ล้านบาท ถือว่าเราได้รับการจัดสรรมากขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย