วช. ส่ง “นวัตกรรมถุงมือยางธรรมชาติ ถุงมือไนไตรเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชัน” กว่า 50,000 คู่ เสริมกำลังใจแพทย์ และบุคลากรด่านหน้า ช่วยเหลือผู้ป่วย
วช. มอบ “นวัตกรรมถุงมือยางธรรมชาติ ถุงมือไนไตรเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชัน” กว่า 50,000 คู่ หนุนกำลังใจแพทย์ และบุคลากรด่านหน้า รับมือผู้ป่วย
วันที่ 3 เมษายน 2566 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ส่งมอบ “นวัตกรรมถุงมือยางธรรมชาติ ถุงมือไนไตรเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19” จำนวนกว่า 50,000 คู่ เพื่อใช้ในพื้นที่เสี่ยงด่านสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมี นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้เกียรติต้อนรับ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยการมอบถุงมือฯ ในครั้งนี้ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นายชาญณรงค์ มณีรัตน์ ผู้อำนวยการกลุ่มสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ วช. เป็นประธานส่งมอบให้กับด่านศุลกากรสะเดา ด่านกักสัตว์สงขลา ด่านตรวจพืชสะเดา ด่านอาหารและยาสะเดา โรงพยาบาลสะเดา โรงพยาบาลปาดังเบซาร์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ด่านตรวจคนหางานสะเดา ด่านตรวจสัตว์ป่าสะเดา ด่านตรวจสัตว์น้ำสะเดา ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศสะเดา และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เพื่อใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 และโรคติดเชื้ออื่นๆ ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าว เป็นผลงานที่ วช. ให้การสนับสนุนทุนวิจัยในโครงการ “ถุงมือยางธรรมชาติ/ถุงมือไนไตรเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 ในพื้นที่เสี่ยง” โดยมี ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นหัวหน้าโครงการ
ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ กล่าวว่า โครงการวิจัยการพัฒนาถุงมือยางธรรมชาติเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 เพื่อใช้ในพื้นที่เสี่ยงด่านสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจาก วช. เพื่อผลิตถุงมือยางพาราเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชัน ซึ่งเป็นถุงมือที่สามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยตนเอง ผลจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการด้วยการนำถุงมือยางพาราและถุงมือไนไตรที่ผลิตจากยางสังเคราะห์มาเคลือบสูตรน้ำยานาโนอิมัลชันเพื่อปรับแต่งโครงสร้างพื้นผิวถุงมือยางให้มีคุณสมบัติกำจัดและฆ่าเชื้อโรคด้วยตนเอง คือสารนาโนอิมัลชันที่เคลือบบนถุงมือยางมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราและเชื้อไวรัสได้ ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้ออยู่ได้ประมาณ 24 ชั่วโมง ถุงมือดังกล่าวได้ผลิตจากยางธรรมชาติไนไตรเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชัน ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนในการผลิตประมาณคู่ละ 0.50 – 1.00 บาท สำหรับผลที่ได้จากโครงการนี้จะทำให้ถุงมือยางมีความปลอดภัยในการใช้งาน ลดการปนเปื้อน และป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัสลงได้ โดยกลุ่มเป้าหมายนำไปใช้ คือผู้ปฏิบัติงานที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่นำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มผู้ปฏิบัติงานในชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา
นอกจากมีการมอบ “นวัตกรรมถุงมือยางธรรมชาติ ถุงมือไนไตรเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19” แล้ว ในวันเดียวกัน คณะจากวช.ได้ไปเยี่ยมชมสถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารา ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย รศ.ดร.เอกวิภู กาลกรณ์สุรปราณี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมยางพาราให้การต้อนรับ และช่วงบ่ายมีการเสวนา เรื่อง “พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยนวัตกรรมไทย ถุงมือยางธรรมชาติ/ถุงมือไนไตรเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19” ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ รวมถึงการขับเคลื่อนสงขลาด้วยวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ผ่านการใช้โมเดลธุรกิจไมซ์ และแนวทางการนำถุงมือยางธรรมชาติ ถุงมือไนไตรเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชัลป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย