ADS


Breaking News

เพาะกายไทยผ่านฉลุย ร่วมลุ้นวันแรก 18 เบ่งกล้ามพร้อมคว้าแชมป์เพาะกายโลก

     ผ่านฉลุย…ทัพนักกีฬาไทยชั่งน้ำหนักผ่านฉลุย พร้อมลงชิงชัยในการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ประจำปี 2022 ครั้งที่ 13 ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต วันที่ 9-11 ธันวาคม ที่ห้องดาราเธียเตอร์ โรงแรมดาราโฮเต็ล จ.ภูเก็ต

รอลุ้นวันแรก 18 นักเบ่งกล้ามไทยคว้าแชมป์เพาะกายโลก

    ทัพนักเบ่งกล้ามไทย ชั่งน้ำหนักผ่านฉลุย พร้อมลุ้นเหรียญทองในเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ประจำปี 2022 ครั้งที่ 13  โดยวันแรก ลุ้น 18 นักกีฬาทั้งชาย-หญิง จากประเภทเพาะกาย และ ฟิตเนส ประเดิมหยิบคว้าแชมป์โลก
     ดาโต๊ะพอล ชัวร์ ประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก (WBPF) เป็นประธานในการประชุมใหญ่ของสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก โดยมี นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ในฐานะเลขาธิการร่วมของสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก ร่วมประชุม พร้อมตัวแทนจากชาติต่างๆ ที่ห้องดาราเธียเตอร์ โรงแรมดาราโฮเต็ล จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.
    นอกจากนี้ ทาง ดาโต๊ะ พอล ชัวร์ ประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก ได้ มอบรางวัลให้กับ ดร.ภูมิวรินทร์ ชุหะวงษ์วริศ  ประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะที่ช่วยสนับสนุน และผลักดัน กีฬาเพาะกายในซีเกมส์  ครั้ง 32 ที่ประเทศ กัมพูชาในปี 2023 และ ชิงแชมป์อาเซียน ที่ลาว ในปี 2024
   ในส่วนของการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ประจำปี 2022 ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต มีการชั่งน้ำหนักอย่างเป็นทางการของนักกึฬาที่เข้าแข่งขัน ทั้งหมด 44 ชาติ ที่ห้องดาราเธียเตอร์ โรงแรมดาราโฮเต็ล จ.ภูเก็ต
    นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีว่า ที่ประชุมและชาติสมาชิกได้ชื่นชมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้ของไทย ในความพร้อมของการจัดการแข่งขันทุกด้าน โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งเรื่องอาหารการกินและเรื่องของที่พัก”
   “นอกจากนั้น ทางสหพันธ์ฯ ยังชื่นชมประเทศไทย ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไทยได้จัดการแข่งขันเพาะกายด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยอดเยี่ยม ตามมาตรฐานสากล ทำให้ทางสหพันธ์ยกย่องให้ไทยเป็นชาติต้นแบบในการจัดการแข่งขันสำหรับชาติอื่นๆ จนได้รับการยอมรับ”
      “นอกจากนั้นที่ประชุมได้หารือถึงกิจกรรมการแข่งขันในปีหน้า ซึ่งทางชาติเจ้าภาพต่างมายืนยันความพร้อมในการจัดการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของชาติในอาเซียน ปีหน้าจะมีการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่32 ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา วันที่ 5-17 พ.ค.2566 เจ้าภาพที่มีการเตรียมความพร้อมอย่างดี นอกจากนี้ชาติในอาเซียนมีการเติบโตอย่างมาก และได้รับการต้อนรับจากชาติต่างๆ อย่างดี เพราะในปี 2567 อีก 2 ปีข้างหน้าลาวจะเป็นเจ้าภาพชิงแชมป์อาเซียน ก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568”
    “ส่วนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ครั้งที่ 55 ที่เนปาล วันที่ 1-7 ก.ย.ปีหน้า และชิงแชมป์โลก 2023 ครั้งที่ 14 ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ใน 31 ก.ค.- 5 พ.ย.ปี 2566 ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เกาหลีใต้มารับไม้ต่อเป็นเจ้าภาพต่อจากไทย เช่นเดียวกับ 3 ปีที่แล้ว เป็นสิ่งที่ดีที่ให้ชาติต่างๆ ได้เป็นเจ้าภาพ”
   “การที่มีชาติต่างๆ จากแต่ละทวีปสนใจเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯเพิ่มมากขึ้น เป็นนิมิตรหมายที่ดีที่แสดงให้เห็นว่ากีฬาเพาะกายในอนาคตจะเป็นกีฬาเพื่อมวลชนและกีฬาเพื่อสุขภาพจริงๆ”
   “ในส่วนของการแข่งขันเพาะกายชิงแชมป์โลก นักกีฬาได้มีการชั่งน้ำหนักอย่างเป็นทางการ ทางสตาฟฟ์โค้ชได้แจ้งมาว่านักกีฬาไทยมีความพร้อม 90 เปอร์เซ็นต์ พร้อมที่จะคว้าแชมป์โลก”
   นายสุวโรจน์  เรขะเฉลิมพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์โลกนักกีฬาไทย ต่างมุ่งมั่นคว้าแชมป์โลกให้ได้ตามที่ทางสมาคมฯ ตั้งเป้าหมายไว้
   สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของนักกีฬาไทย วันแรก จะลงแข่งทั้งหมด 18 คน จากการชิงชัย 17 ทอง ได้แก่ อุษมาร์  ลอตันหยง ประเภทจูเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กก., เกษม รัตนพร ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 55 กก., จีรพันธ์ โป่งคำ ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กก. และ ประเภทมาสเตอร์ เพาะกายชาย รุ่นอายุ 40-49 ปี, สุรศักดิ์  ปานเรือง ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 65 กก.และประเภทมาสเตอร์ เพาะกายชาย รุ่นอายุ 40-49 ปี, วิชัย สิงห์ทอง ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กก., อิทธิภัฒฐ์  ประทีป ประเภทมาสเตอร์ เพาะกายชาย รุ่นอายุ 40-49 ปี, เกษม ศิริโสตร์ ประเภทมาสเตอร์ เพาะกายชาย รุ่นอายุ 50-60 ปี และ ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กก., สาคร มาตรวังแสง ประเภทมาสเตอร์ เพาะกายชาย รุ่นอายุเกิน 60 ปี, สุวิจักขณ์ พินทุสรชัย ประเภทมาสเตอร์ เพาะกายชาย รุ่นอายุเกิน 60 ปี, วันชัย กาญจนพิมาย ประเภทฟิตเนสชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม., พัชรพงษ์  พจนะโกสีย์ ประเภทฟิตเนสชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม., พรชัย ธรรมสังวาลย์ ประเภทฟิตเนสชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม., เรือโทดำรงค์ศักดิ์ สร้อยศรี ประเภทฟิตเนสชาย รุ่นความสูงเกิน 170 ซม., ณัฐวัตร โพธิ์ฉัตร ประเภทฟิตเนสชาย รุ่นความสูงเกิน 170 ซม., จิรฐา จุฑานิชกานต์ ประเภทซีเนียร์ เพาะกายหญิง รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 55 กก., สิรินดา  พันสถา ประเภท จูเนียร์ ฟิตเนสหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี, ประเภท จูเนียร์ โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และ ประเภทซีเนียร์ฟิตเนสหญิง รุ่นความสูงเกิน 165 ซม., พันจ่าอากาศตรีหญิงอาจารี แท่นทรัพย์ประเภท ซีเนียร์ ฟิตเนสหญิง รุ่นความสูงเกิน 165  ซม., ศิริพร ศรช่วย ประเภทซีเนียร์ฟิตเนสหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม.
   ส่วนวันที่ 2 ชิง 16 ทอง ไทยลงแข่ง 26 คน ได้แก่ พรเทพ  สุขเกษม ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กก., ผไทวัฒน์ เอลกวัฒน์ ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กก., อภิชัย วันดี ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กก., ณัฐนันท์ พรหมภูวงศ์ ประเภทสปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม.,  สุรพันธ์  ไหมสีทอง ประเภทสปอร์ตฟิสิคขาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม., กิตติ ผลาผล ประเภท สปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 170 ซม., เทพพร  พวงทับทิม ประเภทสปอร์ตฟิสิคขาย รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม., สหรัฐ เคลือบมาศ ประเภทสปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม., ธนพิพัฒน์  จันทนเสวี ประเภทสปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม. บุลากร  ดีกระโทก ประเภทสปอร์ตฟิสิคขาย รุ่นความสูงไม่เกิน 180 ซม., ประกาศิต  เครือบุตร ประเภทสปอร์ตฟิสิคขาย รุ่นความสูงไม่เกิน 180 ซม., ชวินธร  เทพวงษ์ ประเภทสปอร์ตฟิสิคชาย รุ่นความสูงเกิน 180 ซม., กีรติญา จันทรัตน์ ประเภทซีเนียร์ โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 155 ซม., ศิริพร ศรช่วย ประเภทซีเนียร์ โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 160 ซม., ตรีรักษ์  สระป้อมแก้ว ประเภทซีเนียร์ โมเดลฟิสิค หญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม., พันจ่าอากาศตรีหญิงอาจารี แท่นทรัพย์ ประเภทซีเนียร์ สปอร์ตฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 165 ซม., สิมรา ชุ่มชื่น ประเภทซีเนียร์ สปอร์ตฟิสิคหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม., อรอนงค์ อินทร์แก้ว ประเภทซีเนียร์ สปอร์ตฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 165 ซม., พงษ์ศิริ พรหมจรรย์ ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย  รุ่นความสูงไม่เกิน 160 ซม., ชัยพิพัฒน์  ลิ่วตระกูล ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย  รุ่นความสูงไม่เกิน 160 ซม., จักรวัฒน์  อินทะรังษี ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 167 ซม., ฉัตรดนัย  เศรษฐศิริกุล ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 167 ซม., เอกพล  สุขทอง ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย  รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม. , ธนกฤต บุญศรี ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 175 ซม., มิกซ์แพร์ 2 คู่ มี วันชัย กาญจนพิมาย - ศิริพร ศรช่วย และ เรือโทดำรงค์ศักดิ์ สร้อยศรี - พันจ่าอากาศตรีหญิงอาจารี แท่นทรัพย์ 
     วันที่ 3 ชิง 9 ทอง มี 8 คน ได้แก่ อิทธิภัฒฐ์  ประทีป ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 90 กก., พันธวัช นิมิตภาคภูมิ ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 100 กก., กิตติศักดิ์ วุฒิการณ์ ประเภทซีเนียร์ เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักเกิน 100 กก., กองพล ทองสุข ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย รุ่นความสูงไม่เกิน 182 ซม., เรือโทดำรงค์ศักดิ์ สร้อยศรี ประเภทแอธเลติกฟิสิคชาย รุ่นความสูงเกิน 182 ซม., ศิรินทิพย์ อินทรีย์ ประเภทซีเนียร์ แอธเลติกฟิสิค หญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม., ปุริมปรัชญ์ วรรณอภิลักษณ์ ประเภทซีเนียร์ แอธเลติกฟิสิค หญิง รุ่นความสูงเกิน 165 ซม., ชัญญาภัสร์  ก่อพาราภิรมย์ ประเภทซีเนียร์ โมเดลฟิสิคหญิง รุ่นความสูงเกิน 170 ซม.