สารวัตรแรมโบ้-วัชระบุกต่อไม่หยุด ร้อง รมว.มหาดไทย ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษจัดการขั้นเด็ดขาดแก๊งค์คนจีนสีเทา ลงโทษขั้นรุนแรงถึงประหารชีวิต
สารวัตรแรมโบ้-วัชระลุยต่อไม่หยุด ร้อง รมว.มหาดไทย ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษจัดการขั้นเด็ดขาดแก๊งค์คนจีนสีเทา ลงโทษขั้นรุนแรงถึงประหารชีวิต
จากกรณีที่เป็นข่าวโด่งดังเรื่องแก๊งค์คนจีนสีเทา สารวัตรแรมโบ้-พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย ในฐานะองค์กรภาคประชาชนที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนการทํางานให้กับองค์กรหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนตลอดระยะเวลา 30 ปีเศษ ในเรื่องรณรงค์ป้องกันปราบปรามต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติด จึงได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สภาผู้แทนราษฎร ให้เร่งรัดจัดการแก๊งค์คนจีนสีเทาให้สิ้นซาก เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่กระทรวงมหาดไทย วันที่ 9 ธันวาคม 2565 สารวัตรแรมโบ้-พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย พร้อมด้วยนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ลุยต่อไม่หยุด ยืนหนังสือร้อง พล อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงศ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง โดยมีนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับหนังสือ
ขอให้จัดการขั้นเด็ดขาดกับแก๊งค์คนจีนสีเทา โดยขอให้ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษบุกตรวจค้นจับกุมแก๊งคนจีนข้ามชาติทำผิดกฎหมาย ให้ยึดทรัพย์คนจีน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำผิดกฎหมายอาญาร้ายแรงเป็นกฎหมายความมั่นคงของประเทศ ร่วมมือช่วยเหลือปลอมแปลงบัตรประชาชนให้แก๊งค์คนจีนสีเทาเข้ามากระทำการผิดกฎหมายทั้ง ยาเสพติด ค้าอาวุธ บ่อนการพนัน และผิดกฎหมายอื่นๆ ซึ่งทำเป็นขบวนการใหญ่มาก มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ จึงควรออกกฎหมายให้ลงโทษสถานหนักคือ จำคุกสูงสุด 20 ปีถึงตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต หรือถอนสัญชาติส่งกลับประเทศจีนทันที รวมทั้งยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินทันที เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
อีกทั้งเร่งดำเนินการในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1.จัดตั้งชุดฝ่ายกฎหมายการแปลงสัญชาติให้รัดกุม ยากต่อการที่คนจีนสีเทาหรีอคนต่างชาติจะเข้ามาแปลงสัญชาติได้โดยง่าย ควรเพิ่มข้อระเบียบให้มากขึ้น และหากพบว่ามีการผิดกฎหมายร้ายแรงก็ต้องถูกถอนสัญชาติส่งกลับประเทศถิ่นกำเนิดทันที รวมทั้งต้องยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดินทันที
2.ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเปิดยุทธการรุกเข้าตรวจค้นและจับกุมทันทีโดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกทม.มักจะมีคนจีนเข้ามาซื้อกิจการไว้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคนเหล่านี้พูดไทยไม่ชัดแต่มีบัตรประชาชนทุกคน รวมทั้งแหล่งชุมชนที่มีคนจีนเช่าจำนวนมาก ต้อง ตั้งศูนย์รับแจ้งจากประชาชนทั่วประเทศพร้อมกัน กรณีที่มีคนเสียชีวิตแล้วต้องตรวจสอบว่ามีการแจ้งต่อทางราชการอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีการนำเอาคนจีนมาสวมสิทธิแทน โดยใช้เลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีการดำเนินอย่างเด็ดขาดและจริงจัง ปัญหาเหล่านี้ก็จะคลี่คลายและหมดไปในที่สุด
ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้สอบถาม พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทยและนายสุทธิพงศ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของกระทรางมหาดไทยในเรื่องต่างๆ ของคดี ได้แก่
1. การอนุมัติสัญชาติไทยให้บุคคลต่างด้าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ถึงปัจจุบัน ในสมัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้นกี่ราย ต้นทางสัญชาติใดบ้าง
2. กระทรวงมหาดไทยมีการติดตามพฤติกรรมผู้ได้สัญชาติไทยหรือไม่
3. มีข่าวว่าต้องมีการจ่ายเงินจำนวนมากในการโอนมาเป็นสัญชาติไทยจริงหรือไม่
4. มีมาตรการป้องกันไม่ให้อาชญากรจากต่างประเทศโอนเป็นสัญชาติไทยได้อย่างไรและที่ได้สัญชาติไทยแล้วจะเพิกถอนสัญชาติคนจีนสีเทาหรือมาเฟียจากสัญชาติอื่นอย่างไร เมื่อใด ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงของชาติ
5. กรณีสวมบัตรประชาชนคนไทยที่เสียชีวิตไปแล้ว จะตรวจสอบทั้งประเทศอย่างไร เมื่อใด
6. จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับทุกหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับจีนสีเทาหรือสวมบัตรประชาชนไทยอย่างไร เมื่อใด
7. ปัจจุบันมีคนสัญชาติจีนรออนุมัติเป็นบุคคลสัญชาติไทยอีกจำนวนเท่าใด และจะอนุมัติหรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ จากกรณีกระทำความผิดของแก๊งค์คนจีนสีเทา สะท้อนให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนไปตอบสนองและสนับสนุนการกระทำดังกล่าว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนขอให้พิจารณาตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามตรวจค้นในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดภายใน 30 วัน