กรมศุลกากรตรวจเข้ม ยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 MDMA (เอ็กซ์ตาซี่) 3.01 กก. ซุกพัสดุไปรษณีย์ มูลค่า 18 ล้านบาท
กรมศุลกากรตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 MDMA (เอ็กซ์ตาซี่)
น้ำหนัก 3.01 กิโลกรัม ซุกซ่อนมากับสินค้าทางพัสดุไปรษณีย์ มูลค่า 18 ล้านบาท
วันนี้ (27 ธันวาคม 2565) เวลา 09.00 น. กรมศุลกากรตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 MDMA (เอ็กซ์ตาซี่) น้ำหนัก 3.01 กิโลกรัม มูลค่า 18 ล้านบาท ซุกซ่อนมากับสินค้าทางพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ต้นทางจากประเทศเยอรมนี ณ ศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพฯ หัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายเดินหน้าปราบปรามยาเสพติด ทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด ด้านกระทรวงการคลังโดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง เพิ่มความเข้มงวดและเดินหน้าปราบปรามการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรทุกเส้นทาง กรมศุลกากรจึงเพิ่มการเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน มีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งในวันนี้ (27 ธันวาคม 2565) เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากรพบพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ประเภทพัสดุไปรษณีย์ทางอากาศ ต้นทางจากประเทศเยอรมนี จำนวน 1 หีบห่อ มีลักษณะที่น่าสงสัย จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย (ศรภ.) และพนักงาน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดตรวจพัสดุดังกล่าว ภายในพบถุงกาแฟ จำนวน 3 ถุง ปะปนมากับกล่องชาชนิดต่างๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้มือบีบดูถุงกาแฟทั้งสามมีลักษณะผิดปกติ จึงทำการเปิดถุงกาแฟทั้ง 3 ถุง เพื่อตรวจสอบพบถุงพลาสติกใสบรรจุเกล็ดสีน้ำตาล-ขาวน้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 3.01 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงนำเกล็ดสีน้ำตาล-ขาว ดังกล่าว ไปทดสอบด้วยน้ำยา MARQUIS REAGENT พบว่าทำปฏิกิริยากับน้ำยาทดสอบเปลี่ยนจากใสเป็นสีเทาดำในเวลาต่อมาจึงสันนิษฐานได้ว่า เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 MDMA ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ ECSTASY (ยาอี) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 3.01 กิโลกรัม มูลค่า 18 ล้านบาท
กรณีนี้เป็นการนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 244 และมาตรา 252 ประกอบมาตรา 60 และมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2564 ในข้อหา “นำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 MDMA เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ร่วมกันตรวจยึดพัสดุดังกล่าวเพื่อส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป