ADS


Breaking News

ชาวบ้านทวงถามความคืบหน้า! หลังร้องวัดชื่อดังท้าวเวสสุวรรณ ย่านบางคอแหลม สำนักพุทธฯ รับหนังสือ

คืบหน้า!! สำนักพุทธฯ สั่งตรวจสอบ รับหนังสือชาวบ้านร้อง วัดชื่อดังท้าวเวสสุวรรณ ย่านบางคอแหลม
     วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 (เวลา 13.00 น.) นางสาวสุพักตร์ นรสิทธิ์ นำชาวบ้านย่านวัดชื่อดังท้าวเวสสุวรรณ บางคอแหลม ยื่นหนังสือต่อ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทวงถามความคืบหน้า กรณีการตรวจสอบความไม่โปร่งใส เรื่องรายรับ-รายจ่าย ของวัดชื่อดัง ซึ่ง “พระครู” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชื่อดังท้าวเวสสุวรรณ ย่านบางคอแหลม เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเรื่องดังกล่าว
     นางสาวสุพักตร์ นรสิทธิ์ นำชาวบ้าน จำนวน ๑๐ คน เข้ายื่นหนังสือให้กับ นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการ มหาเถรสมาคมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่จังหวัดนครปฐม เพื่อทวงถามความคืบหน้า กรณี การตรวจสอบความไม่โปร่งใสของ “พระครู” ผู้ช่วยเจ้าอาวาส โดยนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มารับหนังสือจาก นางสาวสุพักตร์ นรสิทธิ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากชาวบ้านย่านวัดชื่อดังท้าวเวสสุวรรณ บางคอแหลม มาสอบถามความคืบหน้าในครั้งนี้
     เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นตัวแทน นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา กล่าวว่า ตนและเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มาที่ไปอย่างเร่งด่วน ก่อนจะมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบคลี่คลายปัญหาต่อไป โดยขอเวลาดำเนินการไม่นาน
     ส่วนนางสาวสุพักตร์ นรสิทธิ์ ตัวแทนชาวบ้านย่านวัดชื่อดังท้าวเวสสุวรรณ บางคอแหลม บอกว่า ตนเองได้ยื่นหนังสือถึงพระชั้นผู้ใหญ่ ให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และ ให้เจ้าคณะใหญ่หน่วยกลาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้เข้าตรวจความว่าถูกต้องหรือไม่ ของพระครู ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดัง เนื่องด้วยญาติโยมและชาวบ้านชุมชนต่างๆประกอบด้วย

๑. ชุมชนวัดชื่อดังท้าวเวสสุวรรณ ย่านบางคอแหลม
๒. ชุมชนชอยอยู่ดี
๓. ชุมชนซอยตระกูลโต๋ว
๔. ชุมชนโรงแก้ว

     มีความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องการเบิกจ่าย และรายรับรายจ่ายของทางวัด นับตั้งแต่พระครูเข้ามาสังกัดอยู่ในวัดนี้และได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้บริหารจัดการในเรื่องต่างๆ ภายในวัด กว่า ๑ ปีที่ผ่านมานั้น (โดยเฉพาะเรื่องการเงินและผลประโยชน์ของวัด) เพื่อให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง เพื่อความโปร่งใส จึงมีความประสงค์ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทางคณะสงฆ์ ได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ รายรับ-รายจ่าย ของวัด , รายรับ-รายจ่าย ของเงินตลาดนัดแต่ละเดือน , รายรับ-รายจ่าย ของเงินเก็บค่าจอดรถ , รายรับ-รายจ่าย ของตู้รับบริจาคทั้งหมด , รายรับตู้บริจาคสร้างตึกสงฆ์อาพาธ ซึ่งนำมาตั้งรับบริจาคที่วิหารหลวงพ่อ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๙  เป็นต้นมา , ขอดูเอกสารในการแต่งตั้งไวยาวัจกร ซึ่งมีการแต่งตั้ง ๒ ครั้ง ๒ คน เป็นไปตามระเบียบหมายของสงฆ์หรือไม่ เพราะว่านับตั้งแต่แต่งตั้งมาไม่เคยเห็นไวยาวัจกรมาทำหน้าที่ช่วยงานวัด และเข้ามารักษาผลประโยชน์ของทางวัดแต่อย่างไร .........
     ทั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องรักษาผลประโยชน์ของทางวัด และขจัดคนพาลให้พ้นไปจากวัดและศาสนาเพราะขณะนี้พระรูปดังกล่าว ยังได้แอบอ้างชื่อของพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ วิ่งเต้นเรื่องยศตำแหน่งทางคณะสงฆ์ และข่มขู่พระสงฆ์บางรูปใน กทม.เพื่อแสวงหาผลประโยชน์และในปัจจุบันได้ร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ภายในวัด..
     คณะสงฆ์ส่วนมากไม่กล้าพูดหรือกระทำการใดๆ ด้วยเกรงกลัวอำนาจและอิทธิพลของพระรูปดังกล่าว เพราะแอบอ้างเป็นหลานเจ้าอาวาส และเป็นหลานหลวงพ่อ........... เป็นต้น จึงเรียนมาเพื่อให้หน่วยงานหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทราบได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามพระธรรมวินัยและกฎหมายบ้านเมืองสืบต่อไปกราบเรียนมาด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ถ้ายังไม่มีอะไรคืบหน้าอีก จะเข้ายื่นหนังสือต่อ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ต่อไป