ADS


Breaking News

'เด็นโซ่' ฉลอง 50 ปี ประกาศเป็นผู้นำการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เร่งขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าอย่างยั่งยืน

‘เด็นโซ่’ ฉลองครบรอบ 50 ปี ประกาศเป็นผู้นำการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าอย่างยั่งยืน

ดร. ธีระวัฒน์ ลิมปิบันเทิง ประธานบริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

กรุงเทพฯ 23 กันยายน 2565กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทย ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก เปิดตัวนวัตกรรมการผลิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งบริษัท พร้อมขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าภายใต้กรอบของการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อประชาคมโลก โดยมีจุดมุ่งหมายหลัก คือ การเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2035 (พ.ศ. 2578) 

นายนาโอโตะ อินนูซูกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนสำหรับการสนับสนุนที่ทำให้เด็นโซ่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จนสามารถยืนหยัดเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์เคียงข้างสังคมไทย ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา เด็นโซ่ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และความสะดวกสบายของผู้คน โดยมีจุดมุ่งหมายในการใช้เทคโนโลยีสร้างสรรค์สังคมล้ำสมัยที่ทำให้ผู้คน ยานยนต์ และสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและสมดุล”

“ในโอกาสครบรอบ 50 ปีนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่เด็นโซ่จะประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ จาก 5 ทศวรรษแห่งการเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คุณภาพระดับโลก สู่ ‘ผู้นำการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าเพื่อประชาคมโลกอย่างยั่งยืน’ ภายใต้กรอบของการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs - Sustainable Development Goals” เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการของเด็นโซ่ในภูมิภาคเอเชียอันได้แก่ ความเป็นกลางทางคาร์บอน การผลิตในยุคอนาคต และการแก้ปัญหาทางสังคมด้วยเทคโนโลยีของเด็นโซ่

ดร. ธีระวัฒน์ ลิมปิบันเทิง ประธานบริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนเด็นโซ่พร้อมทั้งประกาศเปิดตัวนวัตกรรมการผลิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานภายใต้แนวคิด Lean and Clean หรือ การลดความสูญเปล่าที่เกิดจากกระบวนการผลิตทั้งหมด รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยมีเป้าหมายการลดการใช้พลังงาน และส่งเสริมการผลิตด้วยพลังงานหมุนเวียน พร้อมทั้งจัดการบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วยเพื่อสร้างรากฐานในการก้าวสู่ Thailand 4.0 และ Carbon Neutrality ไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะมาเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์ที่นอกจากจะทำให้เด็นโซ่ยืนหยัดเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แล้ว ยังจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ ซึ่งเด็นโซ่จะนำมาใช้เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่าอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนาธุรกิจตามกรอบของ SDGs ดังต่อไปนี้

  1. ด้านสิ่งแวดล้อม

มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ผ่านโซลูชันด้านอุตสาหกรรม อย่างเช่น การนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในสายการผลิต การออกแบบเครื่องจักรภายใต้แนวคิด 1/N หรือการลดขนาดเครื่องจักรให้มีขนาดเล็กและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรเพื่อลดการใช้พลังงานและลดการแผ่รังสีความร้อน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถของการดักจับและจัดเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากสายการผลิต

  1. ด้านเศรษฐกิจและสังคม

เพิ่มการลงทุนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นให้กับคนไทย รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรผ่านโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลไทย รวมถึงการพัฒนาทักษะความสามารถของเจ้าหน้าที่ออกแบบและติดตั้งระบบการผลิตอัตโนมัติทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรม (System Integrator หรือ SI) นอกจากนี้ ยังมีการจัดการฝึกอบรมวิทยากรเพื่อรองรับแผนเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่อไป

กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 ในนาม บริษัท นิปปอนเด็นโซ่ ประเทศไทย จำกัด โดยประเทศไทยนับเป็นสาขานอกประเทศญี่ปุ่นสาขาแรก กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์รายแรกของไทยภายใต้นโยบายจากภาครัฐที่เน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ เมื่อผสานกับนโยบายที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นหลัก ทำให้กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ธุรกิจเจริญเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยประกอบด้วยบริษัทในเครือทั้งสิ้นจำนวน 10 บริษัท สามารถสร้างยอดขายในปี 2021 มากกว่า 103,024 ล้านบาท เติบโตขึ้นมากกว่า 31% จากปี 2020

ข้อมูลสำคัญของกลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทย


ข้อมูลทั่วไป:

    กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 ในนาม บริษัท นิปปอนเด็นโซ่ ประเทศไทย จำกัด โดยประเทศไทยนับเป็นสาขานอกประเทศญี่ปุ่นสาขาแรกและเป็นฐานการผลิตลำดับที่ 3 ของกลุ่มเด็นโซ่ทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเด็นโซ่ คือ การดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และความสะดวกสบายของผู้คน โดยมีจุดมุ่งหมายในการใช้เทคโนโลยีสร้างสรรค์สังคมล้ำสมัยที่ทำให้ผู้คน ยานยนต์ และสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและสมดุล ส่งผลให้ธุรกิจเจริญเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยประกอบด้วยบริษัทในเครือทั้งสิ้นจำนวน 10 บริษัท และมีพนักงาน 10,853 คน

วิสัยทัศน์: สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

     ที่เด็นโซ่ เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีจะช่วยแก้ปัญหาที่ท้าทายของสังคม นำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถสร้างความสงบสุขและความสมดุลให้กับโลก

การยกระดับทักษะและพัฒนาบุคลากร:

     เพราะเด็นโซ่เชื่อในแนวคิด “Monozukuri is Hitozukuri.” กล่าวคือ บุคลากรที่มีทักษะ-ความสามารถ คือ พื้นฐานที่สำคัญของการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยจึงมุ่งเน้นการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพโดยการก่อตั้งศูนย์ฝึกอบรม DENSO Training Academy (Thailand) หรือ DTAT ขึ้นในปี พ.ศ. 2548 เพื่อฝึกทักษะพนักงานทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเซียไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านการผลิต การบำรุงรักษา ความปลอดภัย ทักษะด้านเทคนิค และหลักสูตรต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหาร ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของเด็นโซ่เป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพัฒนาความสามารถของพนักงานสำหรับส่งมอบผลิตภัณฑ์ในระดับคุณภาพมาตรฐานสากล เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เข้าสู่ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งเอเชีย

    นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทยยังดำเนินโครงการสหกิจศึกษาอย่างต่อเนื่องทุกปี (รวมแล้วเป็นจำนวนกว่า 840 คน) เข้าฝึกปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการอย่างมีระบบตรงตามสาขาวิชาของนักศึกษาเป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยเน้นการเรียนรู้จากการทำงานจริงเป็นหลัก ทำให้นักศึกษามีประสบการณ์และมีคุณภาพตรงตามความต้องการของสถานประกอบการมากที่สุด

LASI (Lean Automation System Integrators):

     LASI (Lean Automation System Integrators) คือ การวินิจฉัยกระบวนการผลิตด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นเวลานานของเด็นโซ่ รวมถึงการนำระบบ Factory IoT มาร่วมประยุกต์ใช้ เพื่อวิเคราะห์ลดความสูญเปล่าและปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยมีจุดมุ่งหมายคือการผลิตโดยระบบอัตโนมัติหลากหลายรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อตอบรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นและมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศ


4 เทคโนโลยีหลักในอนาคตของเด็นโซ่:

-            การพัฒนาระบบยานยนต์ไฟฟ้า (Electrification)

-            ความปลอดภัยขั้นสูงสุดและเทคโนโลยีไร้คนขับ (Advanced safety and automated driving)

-            การเชื่อมต่อการขับขี่ (Connected driving)

-            ระบบเครื่องจักรอัตโนมัติ/เทคโนโลยีการเกษตร (Factory automation/AgriTech)


กลุ่มธุรกิจของเด็นโซ่:

-            กลุ่มยานยนต์ เด็นโซ่ส่งมอบความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่จะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและอุบัติเหตุการจราจร และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ไปในคราวเดียวกัน

-            กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจใหม่อื่น ๆ


ผลิตภัณฑ์ของเด็นโซ่:

-- ระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ เช่น Common rail system (Gasoline Injector, Diesel Supply Pump และFuel Pump Module)

-- ระบบระบายความร้อน เช่น HVAC Unit (Heating, Ventilation, Air-Conditioning) และ Evaporator

- - ระบบไฟฟ้า เช่น Computer on automobiles (ECU) และ Semiconductor device

- - ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Flasher และ Relay

- - มอเตอร์ขนาดเล็ก

- - ระบบสื่อสารและความปลอดภัย เช่น Laser radar and Sensor