ADS


Breaking News

ไข่เทียมจากพืช นวัตกรรมจาก ม.รังสิต โชว์ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 65

ม.รังสิตโชว์นวัตกรรมไข่เทียมจากพืช ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
     ม.รังสิตโชว์นวัตกรรมไข่ผงจากพืชไร้สารก่อภูมิแพ้ ในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ  2565  พร้อมต่อยอดเป็นไข่ต้มแบบ ready to eat เก็บอุณหภูมิห้องได้นาน1ปี
     ดร.วิภารัตน์   ดีอ่อง  ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคที่หันมาสนใจบริโภคอาหารที่มาจากพืชเป็นจำนวนมากขึ้น  ทั้งตลาดผู้รักสุขภาพ และตลาดผู้บริโภคมังสวิรัติหรือวีแกนที่กำลังเติบโต การผลิตอาหารที่มีความปลอดภัยและมีงานวิจัยรองรับอย่าง “นวัตกรรมไข่เทียมจากพืชเสริมโปรตีนข้าวไฮโดรไลเสท” จากศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อผู้ประกอบการ  คณะเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยรังสิต จึงตอบโจทย์ด้านอาหารแห่งอนาคต ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน และยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลพลอยได้จากการแปรรูปข้าวของไทย
     รศ.ยุพกนิษฐ์  พ่วงวีระกุล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อผู้ประกอบการ  คณะเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยรังสิต หัวหน้าทีมพัฒนา  ฯ  เปิดเผยว่า  ตลาดผลิตภัณฑ์ไข่จากพืช หรือไข่วีแกนของโลก ในปี พ.ศ. 2570 จะมีมูลค่า 1.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเติบโต 6.2% ต่อปี และสูงถึง 140 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2572 (Franck, 2019)   ปัจจุบัน ไข่จากพืชทั้งหมดเป็นสินค้าที่มีการผลิตและจำหน่ายในต่างประเทศ  ใน  2 ลักษณะ คือของเหลวที่มีข้อจำกัดด้านอายุการเก็บที่สั้นและต้องเก็บรักษาในลักษณะแช่เย็นหรือแช่แข็ง  และผลิตภัณฑ์ในรูปผงที่เก็บรักษาง่ายและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าถึงหนึ่งปี  ไข่จากพืชในรูปแบบนี้จะเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนตลาดให้เติบโตอย่างมากและเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิตรายใหม่
     ทีมวิจัยซึ่งมี รศ.ยุพกนิษฐ์  พ่วงวีระกุล และ อาจารย์สุวิมล สร้อยทองสุข เป็นนักวิจัยหลัก จึงเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่ผงวีแกนจากผลพลอยได้จากการแปรรูปข้าวขึ้น   โดยได้รับทุนอุดหนุนจากโครงการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนฐานราก เครือข่ายวิจัยอุดมศึกษาภาคกลางตอนบน สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 
     ไข่ผงจากพืชที่พัฒนาขึ้นนี้ มีวัตถุดิบมาจากข้าวไทย และผลพลอยได้จากการแปรรูปข้าว ซึ่งนำมาผ่านกระบวนการเฉพาะ เพื่อใช้ในการผลิตไข่เทียม   ซึ่งไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และได้ตัดวัตถุเจือปนอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายออกไป 
     ทั้งจากผลการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีโภชนาการ พบว่าไข่ผงจากพืชที่พัฒนาขึ้น เมื่อเทียบกับไข่จริงพบว่าไม่มีความแตกต่างของปริมาณโปรตีนและแร่ธาตุ มีโภชนาการเท่าไข่จริง   มีโภชนาการเท่าไข่จริงไร้กลิ่นคาว มีสีและรสชาติอ่อน สามารถนำไปทดแทนไข่จริงได้ทุกเมนูคาวหวาน และยังพบว่าปริมาณไขมันในไข่วีแกนต่ำกว่า 14 เท่า ปริมาณเส้นใยสูงกว่า 4 เท่า และมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตมากกว่า 18 เท่า    
     จากการที่ไข่จากพืชหรือไข่วีแกนมีแคลอรีน้อยกว่าไข่จริง ช่วยบ่งชี้ว่าการบริโภคอาจมีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคควบคุมน้ำหนักได้ นอกจากนี้ยังพบว่าไข่วีแกนมีปริมาณสารทั้ง 5 ชนิดอยู่ในระดับสูงสุด ได้แก่ สารประกอบฟีนอลิก, สารต้านอนุมูลอิสระ, สารยับยั้ง ACE, สารDSL และสาร GABA   
     ทั้งนี้ไข่เทียมจากพืชที่ผลิตขึ้น ได้รับการขึ้นทะเบียน อย. แล้ว และมีการขยายผลไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย  ปัจจุบันทีมวิจัยได้มีการต่อยอดเป็นไข่ต้มจากพืชไร้สารก่อภูมิแพ้  แบบ  ready to eat ที่เก็บอุณหภูมิห้องได้นาน1ปี ยืนยันความเป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นด้วย  รางวัลชนะเลิศเหรียญทองนานาชาติ  Life Science WSEEC 2022  ที่จาร์การ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย  รางวัล IYSA SEMI GRAND AWARD2022  รางวัล IYSA GRAND PRIZE AWARD  รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นวัตกรรมแห่งประเทศไทยปี 2564 และรางวัลชนะเลิศFi Asiaปี2564
นวัตกรรมชิ้นนี้  ไม่เพียงเป็นอาหารจากพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ไร้สารก่อภูมิแพ้เท่านั้น แต่ยัง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลพลอยได้จากผลิตภัณฑ์ข้าวของไทยได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
     ผู้สนใจ สามารถชมนวัตกรรมไข่จากพืชเสริมโปรตีนข้าวไฮโดรไลเสท นี้ได้ที่งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่1-5 สิงหาคมนี้  ลงทะเบียนเข้าชมงานแบบ Online ได้ที่ www.researchexpo.nrct.go.th