Dow หนุนนวัตกรรมวัสดุ “โพลีสไตรีน” มุ่งลดคาร์บอน ชวนผู้ผลิตไทยสู่อุตสาหกรรมรักษ์โลก
กรุงเทพฯ – 5 พฤษภาคม 2565 – กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านวัสดุศาสตร์ (Materials Science) สนับสนุนผู้ประกอบการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการใช้โพลีสไตรีน (Polystyrene) แทน ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene) ในการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและของเล่นเด็ก ช่วยประหยัดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนและปัญหาสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์เป้าหมายด้านความยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมนำอุตสาหกรรมไทยมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
Dow มุ่งสู่การเป็นบริษัทนวัตกรรมที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากที่สุดในโลก โดยมุ่งมั่นจะลดการปล่อยคาร์บอนจำนวน 5 ล้านตันต่อปี ภายในปี พ.ศ. 2573 หรือ ลดลง 15% จากฐานปี พ.ศ. 2563 ยิ่งไปกว่านั้นจะเป็นองค์กรที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral) ภายในปี พ.ศ. 2593 โดยบริษัทฯ ตั้งใจที่จะใช้และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรน้อยลง อีกทั้งยังจะช่วยให้ลูกค้าของ Dow ได้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจโพลีสไตรีนของ Dow
จึงได้ผลักดันการนำเม็ดพลาสติก High Impact Polystyrene (HIPS)
ซึ่งเป็นโพลีสไตรีนที่เหมาะสำหรับใช้ในงานที่ต้องรับแรงกระแทก
มีน้ำหนักเบา ดูดซับความชื้นต่ำ มีอุณหภูมิการใช้งานที่ต่ำกว่า จึงประหยัดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนการผลิต และมีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ต่ำกว่า
รวมทั้งสามารถรีไซเคิลได้ จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเมื่อเทียบกับการใช้ ABS
ในการผลิตตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ วิทยุ เฟอร์นิเจอร์ และของเด็กเล่น
โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 – 2565 Dow สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยลดการปล่อยคาร์บอนซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนโดยการเปลี่ยนวัตถุดิบในการผลิตได้ถึง
22,978
ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 68,779 ไร่ต่อปี
นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประเทศและโลกจะยั่งยืนได้
ย่อมต้องมีการบริโภคและธุรกิจที่ยั่งยืนเป็นตัวขับเคลื่อน และนวัตกรรม
คือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่เป้าหมาย ในปีนี้ Dow ครบรอบ 125 ปี ในการก่อตั้งบริษัท เราเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่มุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานและด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด
Dow มีความยินดีและพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการให้ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว
และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายอนุรักษ์ รัศมีอมรวิวัฒน์ Technical
Service and Development & Climate Change กลุ่มบริษัท ดาว
ประเทศไทย กล่าวว่า “ผู้ประกอบการควรพิจารณาการปรับเปลี่ยนวัสดุในการผลิตโดยใช้วัสดุที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องความยั่งยืนและช่วยให้องค์กรและประเทศก้าวสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
(Net Zero) ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ยังเป็นจุดขายและโอกาสทางธุรกิจเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันกับนานาชาติ”
ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมเม็ดพลาสติกโพลีสไตรีนชนิดต่าง
ๆ ของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ที่ https://th.dow.com/en-us/products-solutions/polystyrene.html
###
เกี่ยวกับ ‘ดาว’
Dow (ดาว)
เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกซึ่งพัฒนาและผลิตวัสดุชนิดต่าง ๆ
ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
มีเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกด้วยความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม
รวมทั้งการดำเนินงานที่เป็นเลิศด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล Dow มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทด้านวัสดุศาสตร์
(Materials science) อันดับหนึ่งของโลกในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน
ด้วยการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และให้การยอมรับบุคคลากรที่มีความหลากหลาย
กลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันทางวิทยาศาสตร์ของ Dow ได้แก่ พลาสติกชนิดต่าง ๆ
เคมีภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรม สารเคลือบผิว และซิลิโคน
ซึ่งเน้นสร้างความแตกต่างเพื่อตอบโจทย์ในตลาดที่มีการเติบโตสูง เช่น บรรจุภัณฑ์
การก่อสร้าง ยานยนต์และการขนส่ง และการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบัน Dow มีฐานการผลิต
104 แห่งใน 31 ประเทศ และมีพนักงานประมาณ 35,700 คน โดยมียอดขายในปี พ.ศ. 2564
ประมาณ 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท)
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dow.com หรือติดตามทวิตเตอร์ @DowNewsroom
เกี่ยวกับ ‘กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย’
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow Thailand Group) เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 ประกอบด้วยบริษัทที่ ดาว เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว และกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจี - ดาว ซึ่งดาวได้ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2530 ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ ดาว ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมีโรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ตลาดหลักของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยได้แก่ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง ยานยนต์และการขนส่ง สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ที่ https://th.dow.com/en-us หรือติดตามเฟซบุ๊ก www.facebook.com/DowThailandGroup