เอไอเอ ประเทศไทย สู่ Digital Insurer แห่งแรกในประเทศ ชูกลยุทธ์ ABCDE สร้างนวัตกรรมแกร่ง เสริมสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย
เอไอเอ ประเทศไทย
ปักธงสู่การเป็น Digital
Insurer แห่งแรกในประเทศ
พร้อมดึงกลยุทธ์ ABCDE เสริมนวัตกรรมแกร่ง เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย
กรุงเทพฯ, 24 มีนาคม 2565 – เอไอเอ ประเทศไทย ปักธงเดินหน้าคงความเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทย(1) ชูกลยุทธ์ ABCDE ขับเคลื่อนองค์กรเพื่อก้าวสู่โลกใหม่ มุ่งเตรียมพร้อมเป็น Digital Insurer แห่งแรกของประเทศ พร้อมประกาศผลประกอบการอันแข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทเอไอเอและความสำเร็จของเอไอเอ ประเทศไทย ปี 2564 ที่คว้าส่วนแบ่งการตลาดยอดขายประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) และประกันสุขภาพสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขึ้นแท่นผู้นำบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยที่พร้อมให้บริการและคำปรึกษาด้านการใช้ชีวิต เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ภายในงานแถลงข่าวออนไลน์ “Ask Kris?” ปีที่ 2 ในธีม “Your New Verse”
ผลประกอบการและความสำเร็จของเอไอเอ ประเทศไทย ปี 2564(2)
· ส่วนแบ่งการตลาดเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่
ร้อยละ 23 คิดเป็นมูลค่า 23,542
ล้านบาท
· ส่วนแบ่งการตลาดเบี้ยประกันภัยรับรวม ร้อยละ
26 คิดเป็นมูลค่า 157,446
ล้านบาท
· ส่วนแบ่งการตลาดยอดขายประกันชีวิตควบการลงทุน
(ยูนิต ลิงค์) ร้อยละ 40(3)
คิดเป็นมูลค่า 4,740 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
· ส่วนแบ่งการตลาดยอดขายประกันกลุ่ม Employee Benefit (EB) ร้อยละ 18(3)
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ
ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา
ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจวินาศภัยและประกันชีวิต แต่ในวิกฤติ เอไอเอ ประเทศไทย
ได้มองเห็นโอกาสและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป้าหมายที่ชัดเจนของเรา
คือต้องการส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ผ่านช่องทางที่หลากหลาย
(Omni Channel)
ของเอไอเอ ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมไม่ว่าจะจากช่องทางใด ซึ่งความสำเร็จของเอไอเอ
ประเทศไทยในปี 2564 ท่ามกลางวิกฤติต่าง ๆ นั้น มาจากความมุ่งมั่นตั้งใจของพนักงานทุกฝ่ายและตัวแทนประกันชีวิตทุกท่านที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา
Healthier, Longer, Better Lives
“สำหรับแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ทั้งจากการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย ในขณะที่คนไทยยังไม่พร้อมเกษียณ โดยเอไอเอจะช่วยคนไทยวางแผนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ประกันสังคมที่ถูกปรับลดลง(4) เราจึงเน้นให้คนไทยเข้าถึงประกันสุขภาพได้อย่างทั่วถึงเพื่อช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลส่วนเกิน ให้ผู้เอาประกันภัยอุ่นใจยิ่งขึ้น อีกทั้ง อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น เอไอเอก็พร้อมนำเสนอโอกาสด้านอาชีพตัวแทน AIA Financial Advisor หรือ AIA Life Advisor ที่จะช่วยสร้างอนาคตที่มั่นคง และสร้างคุณค่าต่อตัวเองและผู้อื่น นอกจากนี้ เอไอเอ ยังสามารถคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในทุกมิติ ด้วยการพัฒนาระบบการทำงานและการบริการโดยใช้กลยุทธ์ ABCDE มาเป็นหลักปฏิบัติ เพื่อส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยวางแผนทางการเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคง พร้อมมอบความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพที่ครอบคลุมทุกช่วงชีวิตของคนไทย”
กลยุทธ์ ABCDE ที่จะผลักดันองค์กรให้ก้าวสู่ความเป็นหนึ่งได้อย่างยั่งยืน
ประกอบไปด้วย
·
A –
Agency Transformation
การพัฒนาช่องทางตัวแทนประกันชีวิตให้ทันสมัย ผลักดันสู่การเป็น Digital
Agent ในอนาคต ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการบริการแก่ลูกค้า
เช่น นวัตกรรม AIA iSign ที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถทำประกันชีวิตได้แบบไม่ต้องพบหน้ากัน
เพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางและลดการสัมผัส อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพแม้ในยามวิกฤติ
·
B –
Business Partner Acceleration การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางพันธมิตร
เอไอเอมุ่งมั่นมองหาพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อสร้างอีโคซิสเทม (Ecosystem) ให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร
·
C – Customer Centricity การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
สำหรับการพัฒนาในทุก ๆ ก้าว เพื่อให้ตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด
·
D – Digitalisation Journey การวางเส้นทางไปสู่ยุคดิจิทัล
กับการเป็น Digital Insurer โดยมุ่งเฟ้นหาและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อรองรับการหมุนไปอย่างรวดเร็วของโลกดิจิทัล
·
E –
ESG (Environmental, Social and Governance) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยผ่านกลยุทธ์
ESG ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม
และธรรมาภิบาล
รวมถึงพันธกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอกับ AIA One Billion ที่มุ่งมั่นส่งเสริมให้คนทั่วเอเชียกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี
2030
อนาคต เอไอเอ สู่การเป็น Digital Insurer
เอไอเอเริ่มและวางรากฐานเพื่อมุ่งสู่การเป็น Digital Insurer มาอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับตัวให้ทันยุคสมัย รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราใช้ TDA Strategy (Technology, Digital and Analytics) ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึก (Insight) และความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า รวมถึงการปรับใช้ภายในองค์กรเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน และตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นระบบการทำงานภายในและบริการดิจิทัลต่าง ๆ เช่น
·
AIA iSign นวัตกรรมแรกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับตัวแทนประกันชีวิตในการบริการลูกค้า
ตอบโจทย์การซื้อประกันทุกรูปแบบได้โดยไม่ต้องพบหน้ากัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันมีตัวแทนประกันชีวิตใช้งาน AIA iSign แล้วกว่า 54.4%
ของตัวแทนประกันชีวิตทั้งหมด (5)
·
ALive Powered by AIA แอปพลิเคชันผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่มอบความรู้และบริการด้านสุขภาพอย่างครบครัน
ช่วยดูแลคนไทยทุกคน ไม่เฉพาะสำหรับลูกค้าเอไอเอเท่านั้น โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันนี้แล้วกว่า
436,000
ราย (6)
· AIA iService แอปพลิเคชันที่ครอบคลุมทุกเรื่องกรมธรรม์ ที่ลูกค้าสามารถจัดการด้วยตัวเองได้แค่ปลายนิ้ว รวมถึงบริการ iClaim ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเรียกร้องสินไหมและตรวจสอบสถานะผ่านทางออนไลน์ได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชันนี้
ภายในปีนี้ เราจะสร้างประสบการณ์ในโลกดิจิทัลแบบไร้รอยต่อกับแอปพลิเคชันใหม่จากเอไอเอที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ
ล่าสุดได้ร่วมมือกับสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ผ่านโครงการ AIA x RISE Accelerator ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญของเอไอเอ ประเทศไทย ที่จะได้เรียนรู้และร่วมกันสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อช่วยส่งเสริมให้เอไอเอส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้า และยกระดับธุรกิจประกันชีวิตไทยให้พร้อมก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
“ทั้งนี้ เอไอเอตั้งเป้าที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา
และเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าตลอดกาล เพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ
และสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง มั่งคั่ง และมั่นคง ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ และด้วยกลยุทธ์ที่แน่วแน่นี้ ผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถผลักดันให้เอไอเอครองใจลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และพร้อมเป็นผู้นำ Digital Insurer
ของไทย” นายกฤษณ์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา:
(1) ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนมกราคม 2565
(2) ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ประจำปี 2564
(3) เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่: เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (FYP) + เบี้ยประกันภัยรับชำระครั้งเดียว
(SP)
(4) ข้อมูลจาก มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
(5) ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2565
(6) ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2565