ADS


Breaking News

มทร.รัตนโกสินทร์ เผยแผนท่องเที่ยว ราชบุรี ด้วยโมบายแอปฯ เรียนรู้วัฒนธรรม สัมผัสอาหารพื้นถิ่น

มทร.รัตนโกสินทร์ กางแผนท่องเที่ยว ราชบุรี ด้วยโมบายแอปฯ เรียนรู้วัฒนธรรม สัมผัสอาหารพื้นถิ่น




     นักวิจัย มทร.รัตนโกสินทร์ คิดค้น โมบายแอปพลิเคชัน “ท่องเที่ยวโพธาราม” จังหวัดราชบุรี ภายใต้การสนับสนุนทุนจาก #สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (#วช.) ชวนสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ผ่านโปรแกรมท่องเที่ยวสุดสร้างสรรค์ พร้อมชูนวัตกรรมกระเป๋าเก็บความเย็นโคนมหนองโพ กระตุ้นนักท่องเที่ยวจับจ่ายของฝากกลับบ้าน 

     ดร.สุภัค เผียงสูงเนิน รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมงานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการ เปิดเผยว่า โครงการ “การพัฒนารูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหารพื้นถิ่น โดยใช้โมบายแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี” เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด ผ่านการนำเทคโนโลยีโมบายแอปพลิเคชัน และชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม นักวิจัยได้ออกแบบเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยว อาหารพื้นถิ่นและของดีเมืองโพธาราม เป็น 2 โปรแกรม คือ โปรแกรมแบบ One day trip และโปรแกรมแบบ 2 วัน 1 คืน โดยการวิจัยมีการคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวจะมีการจับจ่ายใช้สอยในเส้นทางท่องเที่ยว ประมาณ 1,000-1,500 บาทต่อคน นับว่าเป็นการสร้างรายได้ให้ประชาชนอำเภอโพธาราม และจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง ราชบุรี เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้สามารถอยู่ได้ในยุค New Normal และสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้ดีขึ้นได้อีกครั้ง ภายหลังการระบาดโควิด-19 

     โดยนักท่อเที่ยวสามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน “#ท่องเที่ยวโพธาราม” บนระบบแอนดรอยด์ได้ เพื่อใช้เป็นช่องทางดูแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ อาหารพื้นถิ่น ที่พัก สถานที่ราชการ และทริปแนะนำต่าง ๆ ในอำเภอโพธาราม ได้อย่างสะดวกสบาย อาทิ วัดขนอนหนังใหญ่ ตลาดวิถีไทย-มอญ และโครงการพระราชดำริเขาชะงุ้ม เป็นต้น โดยสามารถเชื่อมโยงกับโซเชียลมีเดีย และ Google Map ได้ ซึ่งขณะนี้ ได้ต่อยอดแอปฯ เป็นปีที่ 2 แล้ว โดยพัฒนาเป็น Information tourist gateway ที่มีข้อมูลที่สมบูรณ์มากขึ้น อาทิเช่น ข้อมูลการเดินทาง ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ร้านค้า การจองที่พัก และผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น พร้อมทั้งเพิ่มฟังก์ชันเทคโนโลยี AR เข้าไป ให้เกิดเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต บนโมบายแอปพลิเคชัน ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ ได้สัมผัสกับแผนการตลาดดิจิทัลที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งสอดรับกับสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน เป็นไปได้ว่า นักท่องเที่ยวจะเกิดความต้องการและตัดสินใจเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์จริงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น 

     นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าอาหารพื้นถิ่น และตอบโจทย์การบริโภคสินค้า เพื่อนำกลับไปเป็นของฝาก หรือเพื่อการเดินทางแบบต่อเนื่อง จึงได้ออกแบบกระเป๋าเก็บความเย็น สำหรับบรรจุนมและไอศกรีมจากร้านแดรี่ฮัท สหกรณณ์โคนมหนองโพราชบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวของโพธาราม พร้อมด้วย การออกแบบกระเป๋าที่ระลึกโพธารามเอนกประสงค์ โดยถอดอัตลักษณ์จุดท่องเที่ยวโพธารามที่สำคัญ เช่น ตลาดเก่าโพธาราม ตลาดด่านขนอน วัดขนอนหนังใหญ่ ฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การถอดลวดลายการตอกหนังใหญ่ของวัดขนอน ที่ได้รับรางวัลจากยูเนสโก้ (UNESCO) โดยกระเป๋าทั้งสองแบบนี้ ได้คาดการณ์อีกเช่นกันว่า จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้า และอาหารพื้นถิ่นของนักท่องเที่ยวมากขึ้นประมาณ 200-500 บาทต่อคน อันสร้างประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจให้ชุมชนและจังหวัดได้เป็นอย่างดี   
     ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ผลงานวิจัยในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้แผนงานวิจัย“การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง” ที่ วช.ให้การสนับสนุนแก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั้ง 9 แห่ง เป็นการเชื่อมโยงการใช้ประโยชน์ และหนุนเสริมการขยายผลงานวิจัยสู่การพัฒนาชุมชน การท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรอง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้ามามีผลกระทบ ทำให้ทราบว่า งานวิจัยและนวัตกรรม สามารถเข้ามาสนับสนุนและตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนและประชาชนได้เป็นอย่างดี นับเป็นการยกระดับและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง อีกทั้ง เป็นการส่งเสริมโครงการท่องเที่ยวเมืองรองตามนโยบายของรัฐบาล โดยมุ่งหวังให้เกิดเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับการท่องเที่ยวเมืองรอง อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และจังหวัดอื่น ๆ อย่างยั่งยืนต่อไป