ADS


Breaking News

อว.เผย 19 ก.พ.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 121.30 ล้านโดส ทั่วโลกแล้ว 10,520 ล้านโดส ส่วนอาเซียนฉีดแล้วรวมกันกว่า 950.3 ล้านโดส

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 121,300,004 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,520 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 950.3 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (112.7%)
     ➡️(19 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,520 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 27.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 549 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 215 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 950.3 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 337.8 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 121,300,004 โดส 
     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,520 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565  
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม  121,300,004 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 53,038,695 โดส (80.1% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,419,043 โดส (74.7% ของประชากร)
-เข็มสาม 18,842,266 โดส (28.5% ของประชากร)
     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 19 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 121,300,004 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 375,191 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 262,384 โดส/วัน
     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,891,581 โดส
- เข็มที่ 2 3,598,791 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,841,537 โดส
- เข็มที่ 2 28,394,169 โดส
- เข็มที่ 3 4,777,690 โดส 

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,534,206 โดส
- เข็มที่ 2 7,226,648 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 8,035,651 โดส
- เข็มที่ 2 9,395,408 โดส
- เข็มที่ 3 11,143,154 โดส 

วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 735,720 โดส
- เข็มที่ 2 804,027 โดส
- เข็มที่ 3 2,921,422 โดส
     4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 90.7% เข็มที่2 87.2% เข็มที่3 76.3%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 112.7% เข็มที่2 104.4% เข็มที่3 57.8% 
3. นนทบุรี เข็มที่1 81.9% เข็มที่2 78.3% เข็มที่3 54.3%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 91.5% เข็มที่2 80.4% เข็มที่3 49.8%
5. ลำพูน เข็มที่1 80.7% เข็มที่2 76.8% เข็มที่3 38.3%
6. อยุธยา เข็มที่1 73.8% เข็มที่2 71.2% เข็มที่3 38.1%
7. ระยอง เข็มที่1 84.1% เข็มที่2 80.2% เข็มที่3 36.1%
8. ชลบุรี เข็มที่1 82.6% เข็มที่2 78.9% เข็มที่3 32.7%
9. นครปฐม เข็มที่1 76.9% เข็มที่2 75.9% เข็มที่3 32.2% 
10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 81.4% เข็มที่2 69.3% เข็มที่3 30.7%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. นราธิวาส เข็มที่1 55.6% เข็มที่2 44.8% เข็มที่3 6%
2. ปัตตานี เข็มที่1 56.6% เข็มที่2 45.4% เข็มที่3 6%
3. บึงกาฬ เข็มที่1 63.4% เข็มที่2 56% เข็มที่3 8.1%
4. ยะลา เข็มที่1 62.8% เข็มที่2 52.3% เข็มที่3 8.4%
5. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 62.9% เข็มที่2 57.4% เข็มที่3 9.7%
6. สตูล เข็มที่1 64.2% เข็มที่2 59.9% เข็มที่3 10.4%
7. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 65.8% เข็มที่2 60.1% เข็มที่3 11%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 57.8% เข็มที่2 48.2% เข็มที่3 11.2% 
9. สกลนคร เข็มที่1 65.4% เข็มที่2 59.1% เข็มที่3 11.6%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 69.7% เข็มที่2 64.9% เข็มที่3 12.1%
     5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 950,305,410 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 337,806,448 โดส (68.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 190,215,794 โดส (81.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm 
3. ฟิลิปปินส์ 133,234,116 โดส (55.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 121,300,004 โดส (80.1%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 65,864,979 โดส (81.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  
6. พม่า จำนวน 43,533,019 โดส (42.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 35,245,030 โดส (85.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,049,391 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 
9.  ลาว จำนวน 9,077,344 โดส (65.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 
10. บรูไน จำนวน 979,285 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม 
     6. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.62%
2. ยุโรป 10.26%
3. อเมริกาเหนือ 8.71%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.19%
5. แอฟริกา 3.59%
6. โอเชียเนีย 0.63% 
     7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,063.39 ล้านโดส (216.6% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,750.23 ล้านโดส (127%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 549.46 ล้านโดส (163.9%)
4. บราซิล จำนวน 382.2 ล้านโดส (180.5%) 
5. อินโดนีเซีย  จำนวน 337.81 ล้านโดส (122.4%) 
     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (306.8%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (258.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 
3. ชิลี (245.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. มัลดีฟส์ (233.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
5. เกาหลีใต้  (229.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna) 
6. กาตาร์ (229.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)  
7. บาห์เรน (229.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
8. เดนมาร์ก (225.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
9. อิตาลี (222.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna J&J และ AstraZeneca/Oxford) 
10. บรูไน (222.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)  

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)