ADS


Breaking News

อว.เผย 15 ก.พ.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 120.21 ล้านโดส ทั่วโลกแล้ว 10,407 ล้านโดส อาเซียนฉีดแล้วรวมกันกว่า 935.7 ล้านโดส

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 120,217,187 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,407 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 935.7 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (112.4%)
     ➡️(15 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,407 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 28.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 547 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 214 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 935.7 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 332.1 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 120,217,187  โดส 
     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,407 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 
     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565  
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม  119,463,313 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 52,823,235 โดส (79.8% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,255,942 โดส (74.4% ของประชากร)
-เข็มสาม 18,138,010 โดส (27.4% ของประชากร)
     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 15 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว  120,217,187 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 207,281 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 391,030 โดส/วัน
     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,887,580  โดส
- เข็มที่ 2 3,598,605 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,821,252 โดส
- เข็มที่ 2 28,361,186 โดส
- เข็มที่ 3 4,676,084 โดส 

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,530,183 โดส
- เข็มที่ 2 7,221,281 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 7,8355,825 โดส
- เข็มที่ 2 9,287,177 โดส
- เข็มที่ 3 10,647,171 โดส 

วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 728,395โดส
- เข็มที่ 2 787,693โดส
- เข็มที่ 3 2,814,755โดส
     4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 90.1% เข็มที่2 87.1% เข็มที่3 74.8%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 112.4% เข็มที่2 104.2% เข็มที่3 55.3% 
3. นนทบุรี เข็มที่1 81.8% เข็มที่2 78.2% เข็มที่3 52.7%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 91.3% เข็มที่2 80.1% เข็มที่3 47.3%
5. ลำพูน เข็มที่1 80.5% เข็มที่2 76.3% เข็มที่3 37.4%
6. อยุธยา เข็มที่1 73.4% เข็มที่2 71% เข็มที่3 36.6%
7. ระยอง เข็มที่1 83.7% เข็มที่2 79.8% เข็มที่3 34%
8. ชลบุรี เข็มที่1 82.3% เข็มที่2 78.7% เข็มที่3 31.3%
9. นครปฐม เข็มที่1 76.5% เข็มที่2 75.7% เข็มที่3 31.1% 
10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 81% เข็มที่2 69.15% เข็มที่3 29.5%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. นราธิวาส เข็มที่1 55.5% เข็มที่2 44.7% เข็มที่3 5.8%
2. ปัตตานี เข็มที่1 56.4% เข็มที่2 45.3% เข็มที่3 5.9%
3. บึงกาฬ เข็มที่1 63% เข็มที่2 55.8% เข็มที่3 7.9%
4. ยะลา เข็มที่1 62.5% เข็มที่2 52.3% เข็มที่3 8.3%
5. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 62.8% เข็มที่2 57.2% เข็มที่3 9.4%
6. สตูล เข็มที่1 63.9% เข็มที่2 59.9% เข็มที่3 10.3%
7. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 65.3% เข็มที่2 59.9% เข็มที่3 10.6%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 57.4% เข็มที่2 47.3% เข็มที่3 10.8% 
9. สกลนคร เข็มที่1 65.1% เข็มที่2 58.8% เข็มที่3 11.4%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 69.3% เข็มที่2 64.8% เข็มที่3 11.9%
     5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 935,750,763 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 332,106,169 โดส (68.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 186,001,127 โดส (81.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm 
3. ฟิลิปปินส์ 131,659,050  โดส (55.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 120,217,187 โดส (79.8%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 65,198,894 โดส (80.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  
6. พม่า จำนวน 42,555,469 โดส (41.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 34,921,710 โดส (85%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,049,391 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 
9.  ลาว จำนวน 9,062,481 โดส (65.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 
10. บรูไน จำนวน 979,285 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม 
     6. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.50%
2. ยุโรป 10.33%
3. อเมริกาเหนือ 8.75%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.20%
5. แอฟริกา 3.60%
6. โอเชียเนีย 0.63% 
     7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,036.71 ล้านโดส (214.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,734.22 ล้านโดส (125.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 547.49 ล้านโดส (163.3%)
4. บราซิล จำนวน 378.01ล้านโดส (178.5%) 
5. อินโดนีเซีย  จำนวน 332.11 ล้านโดส (120.4%) 
     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (306.3%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (257.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 
3. ชิลี (243.56%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. บาห์เรน (231.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)  
5. มัลดีฟส์ (229.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
6. เกาหลีใต้  (228.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna) 
7. กาตาร์ (226.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
8. เดนมาร์ก (225.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
9. บรูไน (222.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)  
10. สิงคโปร์ (221.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac) 

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)