ADS


Breaking News

อว.เผย 12 ก.พ.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 119.46 ล้านโดส เข็มแรก 79.7% ของประชากร เข็มสอง 74.3% และเข็มสาม 26.5%












"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 119,463,313 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,349 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 927.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (112.2%)

     ➡️(12 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,349 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 25.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 546 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 213 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 927.9 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 329.4 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 119,463,313 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.63% 
     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,349 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 
     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565  
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม  119,463,313 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 52,728,528 โดส (79.7% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,1080,123โดส (74.3% ของประชากร)
-เข็มสาม 17,554,662 โดส (26.5% ของประชากร) 
     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 12 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว  119,463,313 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 415,666 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 405,035 โดส/วัน

     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,884,546 โดส
- เข็มที่ 2 3,598,364 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,797,833 โดส
- เข็มที่ 2 28,329,744 โดส
- เข็มที่ 3 4,554,432 โดส 

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,524,135 โดส
- เข็มที่ 2 7,216,522 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 7,730,933 โดส
- เข็มที่ 2 9,185,621 โดส
- เข็มที่ 3 10,007,245 โดส 

วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 719,870 โดส
- เข็มที่ 2 777,094 โดส
- เข็มที่ 3 2,685,308 โดส

     4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 90% เข็มที่2 87% เข็มที่3 69.4%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 112.2% เข็มที่2 104.1% เข็มที่3 52.7% 
3. นนทบุรี เข็มที่1 81.8% เข็มที่2 78.1% เข็มที่3 51.3%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 91.2% เข็มที่2 80% เข็มที่3 45.2%
5. ลำพูน เข็มที่1 80.3% เข็มที่2 76% เข็มที่3 36.7%
6. อยุธยา เข็มที่1 73.2% เข็มที่2 70.9% เข็มที่3 35.8%
7. ระยอง เข็มที่1 83.6% เข็มที่2 79.7% เข็มที่3 33.3%
8. ชลบุรี เข็มที่1 82.2% เข็มที่2 78.6% เข็มที่3 30.4%
9. นครปฐม เข็มที่1 76.3% เข็มที่2 75.6% เข็มที่3 30.4% 
10. สระบุรี เข็มที่1 65.4% เข็มที่2 65.3% เข็มที่3 28.5%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. นราธิวาส เข็มที่1 55.4% เข็มที่2 44.7% เข็มที่3 5.7%
2. ปัตตานี เข็มที่1 56.3% เข็มที่2 45.3% เข็มที่3 5.8%
3. บึงกาฬ เข็มที่1 63% เข็มที่2 55.6% เข็มที่3 7.8%
4. ยะลา เข็มที่1 62.5% เข็มที่2 52.2% เข็มที่3 8.2%
5. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 62.7% เข็มที่2 57.1% เข็มที่3 9.3%
6. สตูล เข็มที่1 63.8% เข็มที่2 59.8% เข็มที่3 10.1%
7. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 65.1% เข็มที่2 59.6% เข็มที่3 10.4%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 57.4% เข็มที่2 46.9% เข็มที่3 10.5% 
9. สกลนคร เข็มที่1 65% เข็มที่2 58.6% เข็มที่3 11.3%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 69.2% เข็มที่2 64.7% เข็มที่3 11.8%

     5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 927,999,216 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 329,429,884  โดส (68.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 184,868,879 โดส (81.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm  
3. ฟิลิปปินส์ 129,633,511 โดส (54.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 119,463,313 โดส (79.7%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 64,776,270 โดส (80.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  
6. พม่า จำนวน 42,030,270 โดส (41.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 34,713,474 โดส (85%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,049,391 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 
9.  ลาว จำนวน 9,054,939 โดส (65.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 
10. บรูไน จำนวน 979,285 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม 

      6. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.51%
2. ยุโรป 10.37%
3. อเมริกาเหนือ 8.76%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.18%
5. แอฟริกา 3.56%
6. โอเชียเนีย 0.62% 

     7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,029.59 ล้านโดส (214.2% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,722.81 ล้านโดส (125%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 545.52 ล้านโดส (162.7%)
4. บราซิล จำนวน 375.03 ล้านโดส (177.1%) 
5. อินโดนีเซีย  จำนวน 329.43 ล้านโดส (119.4%) 

     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (305.5%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (256.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 
3. ชิลี (243.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. บาห์เรน (229.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)  
5. มัลดีฟส์ (229.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm) 
6. เกาหลีใต้  (227.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna) 
7. เดนมาร์ก (225.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
8. กาตาร์ (225%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
9. บรูไน (222.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)  
10. สิงคโปร์ (221.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac) 

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)