ADS


Breaking News

อว.เผย 3 ม.ค.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 104.49 ล้านโดส เข็มแรก 77.5% ของประชากร เข็มสอง 69.7% และเข็มสาม 10.6%

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 3 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 104,491,859 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,204 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 791.2 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120%)
     ➡️(3 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,204  ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 39.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 508 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 206 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 791.2 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 280.3 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 3 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 104,491,859 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.60% 
     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,204 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 
    1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 3 มกราคม 2565  
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม  104,491,859 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 51,305,090 โดส (77.5% ของประชากร)
-เข็มสอง 46,161,437 โดส (69.7% ของประชากร)
-เข็มสาม 7,025,332 โดส (10.6% ของประชากร) 
     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-3 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว  104,491,859 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 19,692 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 258,559 โดส/วัน 
     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,820,549 โดส
- เข็มที่ 2 3,575,573 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,452,327 โดส
- เข็มที่ 2 27,875,473 โดส
- เข็มที่ 3 2,903,710 โดส 

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 6,973,853 โดส
- เข็มที่ 2 7,104,057 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 6,973,853โดส
- เข็มที่ 2 7,129,203 โดส
- เข็มที่ 3 2,916,342 โดส 

วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 602,454 โดส
- เข็มที่ 2 477,131โดส
- เข็มที่ 3 1,205,280 โดส
     4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย 
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.9% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 98.3%
- อสม เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 75.9% เข็มที่3 23.7%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 77.7% เข็มที่2 71.8% เข็มที่3 9.9%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.2% เข็มที่3 60.6% เข็มที่3 9.8%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 75.4% เข็มที่ 67.7% เข็มที่3 6.5%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 74.4% เข็มที่2 70.7% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 71.2% เข็มที่2 64.1% เข็มที่3 9.8% 
     5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120.3% เข็มที่2 110.6% 
2. ชลบุรี เข็มที่1 93.4% เข็มที่2 87.7% 
3. ภูเก็ต เข็มที่1 87.6% เข็มที่2 85% 
4. สมุทรสาคร เข็มที่1 94.5% เข็มที่2 84.6%
5. เชียงใหม่ เข็มที่1 89.7% เข็มที่2 83.4%
6. ปทุมธานี เข็มที่1 84.1% เข็มที่2 78.4%
7. ระนอง เข็มที่1 82.3% เข็มที่2 75.6% 
8. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 87.2% เข็มที่2 73%
9. พังงา เข็มที่1 74.7% เข็มที่2 72.9%
10. ระยอง เข็มที่1 77.8% เข็มที่2 72.9% 

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 51.5% เข็มที่2 39.5%
2. บึงกาฬ เข็มที่1 53.8% เข็มที่2 40.9%
3. ปัตตานี เข็มที่1 53.3% เข็มที่2 42.5%
4. นราธิวาส เข็มที่1 53.3% เข็มที่2 42.8%
5. นครพนม เข็มที่1 54.8% เข็มที่2 43.5%
6. สกลนคร เข็มที่1 54.4% เข็มที่2 43.6%
7. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 63.6% เข็มที่2 44.9%
8. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 53.9% เข็มที่2 45.5%
9. ศรีสะเกษ เข็มที่1 53.9% เข็มที่2 46.2%
10. สุรินทร์ เข็มที่1 51.7% เข็มที่2 46.2%
     6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 791,214,799 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 280,300,670 (60.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 152,818,575 โดส (79.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm   
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 108,711,269 โดส (51.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 104,491,859 โดส (77.5%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 57,841,435 โดส (79.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  
6. พม่า จำนวน 36,388,358 โดส (38.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 31,525,481 โดส (84.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (88%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 
9.  ลาว จำนวน 8,230,036 โดส (62.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 
10. บรูไน จำนวน 823,787 โดส (94.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม 
     7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.65%
2. ยุโรป 10.41%
3. อเมริกาเหนือ 8.95%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.06%
5. แอฟริกา 3.35%
6. โอเชียเนีย 0.58% 
     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,835841.27ล้านโดส (202.9% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,457.24 ล้านโดส (106.6%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 507.66 ล้านโดส (152.9%)
4. บราซิล จำนวน 331.29 ล้านโดส (157.6%) 
5. อินโดนีเซีย  จำนวน 280.3 ล้านโดส (101.6%) 
     9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (267.1%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (231.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. บาห์เรน (218%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)  
4. มัลดีฟส์ (212.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm) 
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (211.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 
6. เดนมาร์ก (209%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
7. เกาหลีใต้  (203.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna) 
8. จีน (202.9%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui) 
9. สหราชอาณาจักร (199.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford) 
10. อุรุกวัย (197.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)