อว.เผย 29 ม.ค.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 114.57 ล้านโดส ทั่วโลกแล้ว 10,085 ล้านโดส อาเซียนฉีดรวมกันกว่า 892.7 ล้านโดส

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 29 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 114,577,194 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,085 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 892.7 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (111.5%)

     ➡️(29 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,085 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 30.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 537 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 211 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 892.7 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.8% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 311.3 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 114,577,194  โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.75% 

     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,085 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 

     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 29 มกราคม 2565  

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 114,577,194 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

-เข็มแรก 52,266,677 โดส (79% ของประชากร)

-เข็มสอง 48,532,214 โดส (73.3% ของประชากร)

-เข็มสาม 13,778,303 โดส (20.8% ของประชากร) 

    2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-29 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 114,577,194  โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 489,773 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 384,943 โดส/วัน

     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

วัคซีน Sinovac

- เข็มที่ 1 22,867,711โดส

- เข็มที่ 2 3,580,379 โดส

- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน AstraZeneca

- เข็มที่ 1 13,706,099 โดส

- เข็มที่ 2 28,212,770 โดส

- เข็มที่ 3 4,011,242 โดส 

วัคซีน Sinopharm

- เข็มที่ 1 7,505,316 โดส

- เข็มที่ 2 7,188,190 โดส

- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน Pfizer

- เข็มที่ 1 7,500,417 โดส

- เข็มที่ 2 8,804,741 โดส

- เข็มที่ 3 7,715,575 โดส 

วัคซีน Moderna

- เข็มที่ 1 687,134 โดส

- เข็มที่ 2 751,134 โดส

- เข็มที่ 3 2,051,486 โดส

     4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย 

- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 114.2% เข็มที่2 112% เข็มที่3 97.9%

- อสม เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 78% เข็มที่3 37.4%

- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 105.6% เข็มที่2 100.3% เข็มที่3 30.4%

- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 88.5% เข็มที่2 81.3% เข็มที่3 23.8%

- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.9% เข็มที่2 61.4% เข็มที่3 16.8%

- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 71.7% เข็มที่2 69.2% เข็มที่3 0%

รวม เข็มที่1 75.1% เข็มที่2 69.8% เข็มที่3 19.8% 

     5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด

1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 111.5% เข็มที่2 103.2% 

2. ภูเก็ต เข็มที่1 89.6% เข็มที่2 86.9%

3. ปทุมธานี เข็มที่1 86.7% เข็มที่2 81.7%

4. ระนอง เข็มที่1 83% เข็มที่2 79.3%

5. สมุทรปราการ เข็มที่1 90.6% เข็มที่2 79.2%

6. ระยอง เข็มที่1 82.6% เข็มที่2 78.9%

7. ชลบุรี เข็มที่1 81.7% เข็มที่2 77.8% 

8. นนทบุรี เข็มที่1 81.1% เข็มที่2 77.7%

9. พังงา เข็มที่1 77.9% เข็มที่2 75.8% 

10. นครปฐม เข็มที่1 75.6% เข็มที่2 75% 

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด

1. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 56.2% เข็มที่2 42.9%

2. นราธิวาส เข็มที่1 55.1% เข็มที่2 44.4%

3. ปัตตานี เข็มที่1 55.9% เข็มที่2 45%

4. ตาก เข็มที่1 56.8% เข็มที่2 47.5%

5. ยะลา เข็มที่1 62.3% เข็มที่2 52%

6. กาญจนบุรี เข็มที่1 56.1% เข็มที่2 53.2%

7. ลพบุรี เข็มที่1 57.6% เข็มที่2 53.7% 

8. บึงกาฬ เข็มที่1 62.7% เข็มที่2 54.5%

9. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 62% เข็มที่2 55.9%

10. สกลนคร เข็มที่1 64% เข็มที่2 56.3%

     6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 892,714,364 โดส ได้แก่

1. อินโดนีเซีย จำนวน 311,366,041 โดส (66.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm

2. เวียดนาม จำนวน 180,366,266 โดส (81%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm   

3. ฟิลิปปินส์ 126,164,109 โดส (54.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  

4. ไทย จำนวน 114,577,194 โดส (79%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm

5. มาเลเซีย จำนวน 63,284,490 โดส (79.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  

6. พม่า จำนวน 40,437,126 โดส (40.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

7. กัมพูชา จำนวน 34,103,903 โดส (84.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 

8. สิงคโปร์ จำนวน 12,684,264 โดส (91%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 

9.  ลาว จำนวน 8,765,840 โดส (64.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 

10. บรูไน จำนวน 965,131 โดส (94.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม 

     7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.64%

2. ยุโรป 10.41%

3. อเมริกาเหนือ 8.80%

4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02%

5. แอฟริกา 3.53%

6. โอเชียเนีย 0.60% 

     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

1. จีน จำนวน 2,989.48 ล้านโดส (211.4% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)

2. อินเดีย จำนวน 1,688.89 ล้านโดส (122.5%)

3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 537.24 ล้านโดส (160.2%)

4. บราซิล จำนวน 358.79 ล้านโดส (169.4%) 

5. อินโดนีเซีย  จำนวน 311.37 ล้านโดส (112.9%) 

     9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

1. คิวบา (298.8%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (252.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 

3. ชิลี (239.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)

4. บาห์เรน (227.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)  

5. เดนมาร์ก (224.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)

6. เกาหลีใต้  (221.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna) 

7. มัลดีฟส์ (216.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm) 

8. บรูไน (218.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)  

9. สิงคโปร์ (215.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac) 

10. จีน (215.1%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข

     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)