ADS


Breaking News

อว.เผย 20 ม.ค.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 110.79 ล้านโดส ทั่วโลกแล้ว 9,811 ล้านโดส อาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 861.4 ล้านโดส

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 20 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 110,799,936 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,811 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 861.4 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (121%)
     ➡️(20 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,811 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 37 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 529 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 209 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 861.4 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 301.5 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 20 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 110,799,936 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.68% 
     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,811 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 
     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 20 มกราคม 2565  
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 110,799,936 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 51,922,910 โดส (78.4% ของประชากร)
-เข็มสอง 47,834,174 โดส (72.3% ของประชากร)
-เข็มสาม 11,042,852 โดส (16.7% ของประชากร) 
     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-20 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 110,799,936 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 489,455 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 432,668 โดส/วัน 
     3. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย 
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.7% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 102.5%
- อสม เข็มที่1 79% เข็มที่2 76.8% เข็มที่3 31.9%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 78.3% เข็มที่2 73.8% เข็มที่3 17.7%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 69.1% เข็มที่3 63% เข็มที่3 15%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.3% เข็มที่2 70.3% เข็มที่3 14.7%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 75.3% เข็มที่2 72.5% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 72.1% เข็มที่2 66.4% เข็มที่3 15.3% 
     4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 861,445,526 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 301,532,010 โดส (64.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 171,638,597 โดส (80.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm  
3. ฟิลิปปินส์ 121,493,405 โดส (53.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 110,799,936 โดส (78.4%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 61,540,069  โดส (79.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  
6. พม่า จำนวน 38,483,555 โดส (39.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 33,034,751 โดส (84.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 
8. สิงคโปร์ จำนวน 12,444,673 โดส (90%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 
9.  ลาว จำนวน 8,555,580 โดส (63.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 
10. บรูไน จำนวน 922,950 โดส (94.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม 
     5. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.73%
2. ยุโรป 10.37%
3. อเมริกาเหนือ 8.82%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02%
5. แอฟริกา 3.47%
6. โอเชียเนีย 0.59% 
     6. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,947.14 ล้านโดส (208.4% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,626.51 ล้านโดส (118%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 529.27 ล้านโดส (157.9%)
4. บราซิล จำนวน 348.16 ล้านโดส (164.4%) 
5. อินโดนีเซีย  จำนวน 301.53 ล้านโดส (109.3%) 
     7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (290.7%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (249.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 
3. ชิลี (235.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. เดนมาร์ก (232.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
5. บาห์เรน (225.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)  
6. เกาหลีใต้  (216.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna) 
7. มัลดีฟส์ (211.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm) 
8. สิงคโปร์ (211.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac) 
9. บรูไน (209.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
10. จีน (208.4%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)  

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)