อว.เผย 15 ม.ค.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 108.91 ล้านโดส ทั่วโลกฉีดแล้ว 9,648 ล้านโดส ส่วนอาเซียนฉีดรวมกันกว่า 839.9 ล้านโดส

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 15 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 108,916,435 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,648 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 839.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120.8%)

     ➡️(15 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,648 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 39.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 526 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 209 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 839.9 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 295.4 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 15 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 108,916,435 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.65% 

     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,648 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 

     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 15 มกราคม 2565  

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 108,916,435 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

-เข็มแรก 51,751,305 โดส (78.2% ของประชากร)

-เข็มสอง 47,445,961 โดส (71.7% ของประชากร)

-เข็มสาม 9,719,169 โดส (14.7% ของประชากร)

     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-15 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 108,916,435 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 602,487 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 423,314  โดส/วัน 

     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

วัคซีน Sinovac

- เข็มที่ 1 22,840,563 โดส

- เข็มที่ 2 3,577,632 โดส

- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน AstraZeneca

- เข็มที่ 1 13,552,427 โดส

- เข็มที่ 2 28,032,353โดส

- เข็มที่ 3 3,276,846 โดส 

วัคซีน Sinopharm

- เข็มที่ 1 7,476,816 โดส

- เข็มที่ 2 7,150,891 โดส

- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน Pfizer

- เข็มที่ 1 7,257,326 โดส

- เข็มที่ 2 8,050,670 โดส

- เข็มที่ 3 4,960,756 โดส 

วัคซีน Moderna

- เข็มที่ 1 624,173 โดส

- เข็มที่ 2 634,425 โดส

- เข็มที่ 3 1,481,567 โดส

     4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย 

- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.7% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 101.5%

- อสม เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 76.6% เข็มที่3 29.3%

- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 78.2% เข็มที่2 73.4% เข็มที่3 15.3%

- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.9% เข็มที่3 62.4% เข็มที่3 13.2%

- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.1% เข็มที่2 69.7% เข็มที่3 12.2%

- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 75.1% เข็มที่2 72.2% เข็มที่3 0%

รวม เข็มที่1 71.8% เข็มที่2 65.9% เข็มที่3 13.5% 

     5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด

1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120.8% เข็มที่2 111.9% 

2. ชลบุรี เข็มที่1 94% เข็มที่2 89.1% 

3. สมุทรสาคร เข็มที่1 95.3% เข็มที่2 76.4%

4. เชียงใหม่ เข็มที่1 90.3% เข็มที่2 86.3%

5. ภูเก็ต เข็มที่1 87.9% เข็มที่2 85.4%

6. ปทุมธานี เข็มที่1 84.4% เข็มที่2 79.4%

7. ระนอง เข็มที่1 83.3% เข็มที่2 78.7% 

8. ระยอง เข็มที่1 78.7% เข็มที่2 74.9%

9. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 87.9% เข็มที่2 74.7%

10. พังงา เข็มที่1 75% เข็มที่2 73.1%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด

1. ปัตตานี เข็มที่1 53.8% เข็มที่2 43.1%

2. นราธิวาส เข็มที่1 53.6% เข็มที่2 43.2%

3. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 52.1% เข็มที่2 43.6%

4. บึงกาฬ เข็มที่1 54.6% เข็มที่2 44.8%

5. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 65.6% เข็มที่2 46.5%

6. สกลนคร เข็มที่1 55.6% เข็มที่2 46.7%

7. สุรินทร์ เข็มที่1 52.3% เข็มที่2 47.4%

8. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 54.9% เข็มที่2 48.3%

9. ศรีสะเกษ เข็มที่1 54.8% เข็มที่2 48.4%

10. นครพนม เข็มที่1 56% เข็มที่2 48.8%

     6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 839,971,832โดส ได้แก่

1. อินโดนีเซีย จำนวน 295,441,504 โดส (63.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm

2. เวียดนาม จำนวน 165,524,173 โดส (80.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm   

3. ฟิลิปปินส์ 117,337,626 โดส (52.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  

4. ไทย จำนวน 108,916,435  โดส (78.2%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm

5. มาเลเซีย จำนวน 60,557,570 โดส (79.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  

6. พม่า จำนวน 38,156,041 โดส (38.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

7. กัมพูชา จำนวน 32,520,898 โดส (84.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 

8. สิงคโปร์ จำนวน 12,132,375 โดส (89%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 

9.  ลาว จำนวน 8,462,260โดส (63.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 

10. บรูไน จำนวน 922,950 โดส (94.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม 

     7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.70%

2. ยุโรป 10.40%

3. อเมริกาเหนือ 8.84%

4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.99%

5. แอฟริกา 3.48%

6. โอเชียเนีย 0.59% 

     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

1. จีน จำนวน 2,923.7 ล้านโดส (206.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)

2. อินเดีย จำนวน 1,585.86ล้านโดส (115%)

3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 525.6 ล้านโดส (156.8%)

4. บราซิล จำนวน 339.26 ล้านโดส (160.2%) 

5. อินโดนีเซีย  จำนวน 295.44 ล้านโดส (107.1%) 

     9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

1. คิวบา (282.1%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (247.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 

3. ชิลี (234.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)

4. เดนมาร์ก (232.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)

5. บาห์เรน (224.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)  

6. เกาหลีใต้  (213%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna) 

7. มัลดีฟส์ (209.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm) 

8. บรูไน (209.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)

9. จีน (206.7%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui) 

10. สิงคโปร์ (206.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac) 

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข

     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)