อว.เผย 9 ธ.ค.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 96.34 ล้านโดส ทั่วโลกแล้ว 8,304 ล้านโดส อาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 690.5 ล้านโดส
"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 96,341,748 โดส และทั่วโลกแล้ว 8,304 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 690.5 ล้านโดส
➡️(9 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 8,304 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 36.8 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 476 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 200 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 699.4 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (91.8% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 245.5 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 96,341,748 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.8%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 8,221 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 96,341,748 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 49,568,675 โดส (74.9% ของประชากร)
-เข็มสอง 42,855,870 โดส (64.7% ของประชากร)
-เข็มสาม 3,917,203 โดส (5.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-9 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 96,341,748 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 462,006 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 369,799 โดส/วัน
3. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122.3% เข็มที่2 119% เข็มที่3 94.3%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่3 64.4% เข็มที่2 61.7% เข็มที่3 20.6%
- อสม เข็มที่1 78.3% เข็มที่2 74.2% เข็มที่3 17%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 75.9% เข็มที่2 68.3% เข็มที่3 4.6%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 66.4% เข็มที่2 55.9% เข็มที่3 4.8%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 72.5% เข็มที่2 63.6% เข็มที่3 1.4%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 19.5% เข็มที่2 15.7% เข็มที่3 0.4%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 71.7% เข็มที่2 65.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 68.8% เข็มที่2 59.5% เข็มที่3 5.4%
4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 699,443,494 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 245,595,833 (52.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 129,408,202 โดส (75.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 96,341,748โดส (74.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 94,236,990 โดส (48.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 54,470,578 โดส (79.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 30,758,382 โดส (33.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 30,337,311 โดส (83.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (87%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 7,439,138 โดส (56.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 771,983 โดส (91.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
5. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.39%
2. ยุโรป 10.38%
3. อเมริกาเหนือ 9.19%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.32%
5. แอฟริกา 3.12%
6. โอเชียเนีย 0.6%
6. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,567.55 ล้านโดส (183.4% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,304.20 ล้านโดส (95.4%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 475.73 ล้านโดส (143.3%)
4. บราซิล จำนวน 316.68 ล้านโดส (150.7%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 243.12 ล้านโดส (88.1%)
7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (252.8%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (218.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (209% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (205.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (203.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (194.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. จีน (183.4%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
8. กาตาร์ (180.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. อิสราเอล (180%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
10. กัมพูชา (179.4%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)