“เบลล่า ราณี” หลงเสน่ห์พัทยา ชวนมาร่วม “Unseen More Fun วันธรรมดา@ชลบุรี”
“เบลล่า ราณี” ชวนเที่ยวพัทยา
กับแคมเปญ “Unseen More Fun วันธรรมดา@ชลบุรี”
ททท. สำนักงานพัทยา ผุดแคมเปญ “Unseen More Fun วันธรรมดา@ชลบุรี” หลังประกาศเปิดเมืองพร้อมรับนักท่องเที่ยวตุลาคมนี้ ชูกลยุทธ์เซเลบริตี้ มาร์เก็ตติ้ง ดึง “เบลล่า ราณี” ชวนเที่ยวพัทยาผ่าน “Photo Series” กับหุบเขาไดโนเสาร์ Unseen New series แห่งใหม่ของพัทยา พร้อมเตรียมคลอดแพ็คเกจวันธรรมดา ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่ม
นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีมีมติให้จังหวัดชลบุรี พร้อมเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้ ททท.สำนักงานพัทยา จึงได้ขานรับนโยบายรัฐบาลด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “Unseen More Fun วันธรรมดา@ชลบุรี” โดยมีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นการท่องเที่ยววันธรรมดา เพื่อสร้างกระแสความคิดถึงการท่องเที่ยวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และสร้างการรับรู้การเปิดเมือง พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยวพัทยาวิถีใหม่ในรูปแบบ new normal ที่ปลอดภัยกับตัวเราและคนรอบข้าง
โดยแคมเปญดังกล่าว ททท.ได้กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดในรูปแบบ Celebrity Marketing ในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว Unseen ในพื้นที่ชลบุรี ด้วยการเปิดตัวด้วย “Photo Series” ของเบลล่า ราณี ดารานักแสดงชื่อดังกับแหล่งท่องเที่ยว Unseen New series หุบเขาไดโนเสาร์ สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี โดยกลุ่มเป้าหมายจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
นอกจากนี้ ในปลายปีนี้ ททท.ยังเตรียมออกโปรโมชั่นพิเศษวันธรรมดาสำหรับตลาดท่องเที่ยวภายในที่หลากหลายกลุ่มท่องเที่ยว อาทิ เส้นทางของคนรักกาแฟ (Road Trip to Pattaya Cafe) แพ็คเกจ Golf and Games สำหรับคนรักกีฬาและความท้าทายของ Soft Adventure แพ็คเกจล่องเรือยอร์ชสุดหรู สำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินทางสัมผัสประสบการณ์ความหรูหราในการท่องเที่ยว
“การท่องเที่ยววันธรรมดา ถือเป็นหนึ่งรูปแบบของการเดินทางแบบ New Normal ปลอดภัย สามารถควบคุมและเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ขณะที่ในส่วนของผู้ประกอบการเองมีโอกาสเพิ่มระยะเวลาในการนำเสนอขายสินค้านอกจากวันหยุดนับเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงภาวะวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังตอบโจทย์พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวใหม่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เปลี่ยนจากการ Work at Home นำไปสู่การทำงานเทรนด์ใหม่ที่เรียกว่า "Workation" อีกด้วย”