แลนเซสส์ (LANXESS) เผย! เสร็จสิ้นกระบวนการเข้าซื้อกิจการของ Emerald Kalama Chemical โดยสมบูรณ์
- ธุรกิจที่ถูกเข้าซื้อกิจการนี้มียอดขายประมาณ 425 ล้านเหรียญสหรัฐ และ EBITDA ประมาณ 90 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ช่วยเสริมให้แลนเซสส์มี EBITDA เพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในสามปีหลังจากการซื้อกิจการเสร็จสิ้น
- ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ภาคส่วนธุรกิจปกป้องผู้บริโภค โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สารเคมีอโรมา สารถนอมอาหาร เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
- จัดตั้งหน่วยหน่วยธุรกิจสารปรุงแต่งรสและกลิ่นขึ้นใหม่
- Zachert ซีอีโอของแลนเซสส์เน้นว่า: "แลนเซสส์จะมีเสถียรภาพและทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น"
กรุงเทพมหานคร, วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2564 – แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจากประเทศเยอรมนีและมีสำนักงานหนึ่งแห่งในกรุงเทพมหานครได้เสร็จสิ้นกระบวนการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของบริษัทเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมนี้ โดยการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Emerald Kalama Chemical ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษรายใหญ่ที่มีฐานอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือบริษัทในเครือของ American Securities LLC ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนในหุ้นของบริษัทเอกชนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity Firm) โดยได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบที่จำเป็นจากทางการทั้งหมดแล้ว มูลค่าองค์กรของ Emerald Kalama Chemical อยู่ที่ 1.075 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 35.475 พันล้านบาท) หลังจากหักหนี้สินแล้ว ราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 34.32 พันล้านบาท) โดยแลนเซสส์ได้จัดหาเงินทุนในการดำเนินการนี้จากสภาพคล่องที่มีอยู่ (อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในที่นี้ทั้งหมดคือ 33 บาทต่อ 1 USD)
“Emerald Kalama Chemical จะเข้ามาช่วยส่งเสริมเส้นทางการเติบโตของเราอีกครั้งหนึ่ง ธุรกิจใหม่ที่ได้มานี้สอดคล้องเหมาะสมกับกลยุทธ์ของเราเป็นอย่างดี เรากำลังเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งทางการตลาดของเราด้วยอัตราการเติบโตที่น่าดึงดูดใจ และจะขยายตัวเข้าสู่พื้นที่ตลาดใหม่ๆ ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดของเครื่องดื่มและอาหาร รวมถึงในตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและเครื่องสำอาง ยิ่งไปกว่านั้น Emerald Kalama Chemical ยังบูรณาการย้อนกลับเข้ากับธุรกิจเดิมของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ – เสริมความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่คุณค่าของเราในภาคส่วนธุรกิจปกป้องผู้บริโภค (Consumer Protection) โดยภาคส่วนธุรกิจนี้เป็นกลไกที่สำคัญในการทำให้แลนเซสส์มีเสถียรภาพทางธุรกิจและสร้างผลกำไรให้มากยิ่งขึ้น” Matthias Zachert ประธานคณะกรรมการบริหารของ LANXESS AG กล่าว “ตอนนี้ทีมงานที่แข็งแกร่งนี้กำลังทำงานร่วมกันเต็มที่เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถบูรณาการกันได้อย่างรวดเร็ว”
การเสร็จสมบูรณ์ของธุรกรรมครั้งนี้ทำให้แลนเซสส์มีพนักงานเพิ่มขึ้นราว 470 คนและมีโรงงานผลิตเพิ่มขึ้นสามแห่งในเมืองคาลามา/วอชิงตัน (ประเทศสหรัฐอเมริกา) เมืองร็อตเตอร์ดัม (ประเทศเนเธอร์แลนด์) และเมืองวิดเนส (ประเทศสหราชอาณาจักร)
ในปี พ.ศ. 2563 Emerald Kalama Chemical มียอดขายทั่วโลกประมาณ 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14,025 ล้านบาท) และ EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติประมาณ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,640 ล้านบาท) แลนเซสส์คาดว่าภายในสามปีจะมีส่วนช่วยเสริมให้ EBITDA ในแต่ละปีเพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (825 ล้านบาท) จากผลการรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้มีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นในงบการเงินของปีแรกหลังจากการเข้าซื้อกิจการเสร็จสิ้นสมบูรณ์
การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับภาคส่วนธุรกิจการดูแลผู้บริโภค
ประมาณสามในสี่ของยอดขายของธุรกิจที่ได้ซื้อเข้ามาครั้งนี้มาจากผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ทางด้านการดูแลผู้บริโภค
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้แลนเซสส์กลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์สารปรุงแต่งรสชาติและกลิ่น (Flavors and Fragrances) ซึ่งเป็นตลาดที่แลนเซสส์คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน สารนี้ใช้เป็นหลักในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เครื่องสำอาง และน้ำหอมกลิ่นพิเศษ เช่นเดียวกับอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของแลนเซสส์ประกอบด้วยสารเคมีอโรมามากกว่า 30 ชนิดที่ให้กลิ่นแบบเอิร์ธโทน ดอกไม้ ผลไม้ รสเผ็ดร้อน และสมุนไพร
แลนเซสส์กำลังรวมธุรกิจนี้เข้ากับหน่วยธุรกิจสารปรุงแต่งรสชาติและกลิ่น (Flavours & Fragrances) ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของภาคส่วนธุรกิจการปกป้องผู้บริโภค
การเข้าซื้อกิจการยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งผู้นำของแลนเซสส์ในหน่วยธุรกิจสารถนอมอาหาร ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่มีการเติบโตสูง อันได้แก่ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม
อีกประมาณหนึ่งในสี่ของยอดขายจากธุรกิจที่พึ่งซื้อเข้ามานี้มาจากสารเคมีชนิดพิเศษสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมพลาสติก สีและสารเคลือบ และกาว ผลิตภัณฑ์จะถูกรวมเข้ากับหน่วยธุรกิจสารเติมแต่งโพลีเมอร์ (Polymer Additives)