ADS


Breaking News

กรมศุลกากรจับยาเสพติดประเภทเฮโรอีน ซุกซ่อนในถังสี มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท

วันนี้ (วันที่ 6 ก.ค. 2564) เวลา 14.00 น. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากรแถลงข่าวจับกุมยาเสพติดประเภทเฮโรอีนซุกซ่อนในถังสีอะคริลิก เตรียมส่งประเทศออสเตรเลีย จำนวน 134 หีบห่อ น้ำหนัก 314.63 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 943.89 ล้านบาท โดยได้รับเกียรติจากนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ว่าที่ ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพล.ต.ต. สุศักดิ์ ปรักกมะกุล รอง ผบช.ปส. พร้อมด้วยโดยมี นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร และนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม ร่วมแถลงฯ ณ กรมศุลกากร คลองเตย

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรมีการเฝ้าระวังในการติดตามสินค้ากลุ่มเสี่ยงที่จะมีการลักลอบนำยาเสพติดไปนอกราชอาณาจักร จึงมอบหมายให้หน่วยงานในความรับผิดชอบของกรมศุลกากรเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าที่มีความสุ่มเสี่ยง จนเมื่อวานนี้ (5 กรกฎาคม 2564) เจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เข้าตรวจสอบสินค้าขาออก พบสินค้าที่มีความน่าสงสัย เตรียมส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย สำแดงสินค้า 2 รายการ เป็นสีอะคริลิก ปริมาณ 270 Cartons น้ำหนัก 6,750 KGM เข้าเงื่อนไขให้เปิดตรวจ (Red line) โดยระบบบริหารความเสี่ยงกรมศุลกากรทั้ง Central Profile และ Local Profile ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีทางศุลกากรในการ X-Ray ตรวจสอบภาพพบความผิดปกติ ซึ่งสินค้าเป็นสีอะคริลิกบรรจุถังพลาสติกสีฟ้า จำนวน 135 ถัง และสีอะคริลิกบรรจุถังพลาสติกสีม่วง จำนวน 135 ถัง

เมื่อเปิดถังพลาสติกสีฟ้าพบวัตถุต้องสงสัยบรรจุในกล่อพลาสติกสีใสขนาด 18 cm x 18 cm x 12 cm ห่อด้วยเทปพลาสติกสีน้ำตาล น้ำหนักประมาณ 2.4 กิโลกรัม/หีบห่อ ตรวจสอบเบื้องต้นด้วย Test Kits บ่งบอกเป็นยาเสพติดประเภทเฮโรอีน จำนวน 134 หีบห่อ น้ำหนัก 314.63 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 943.89 ล้านบาท อันเป็นความผิดตาม มาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 จึงได้ดำเนินการจับกุมพร้อมทั้งประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผล และส่งคดีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป