ADS


Breaking News

ซีพีเอฟใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก 99.9% หมุนเวียนมาใช้ซ้ำ นำมาใช้ใหม่ นำไปผลิตเป็นสินค้าใหม่ หรือย่อยสลายได้

     บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นมีส่วนร่วมดูแลโลกและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี  ใช้บรรจุภัณฑ์อาหาร 99.9% เป็นพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) หรือนำมาใช้ใหม่ (Recyclable) หรือนำไปผลิตเป็นสินค้าใหม่ (Upcyclable) หรือย่อยสลายได้ (Compasable) 
     เดินหน้าพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ตั้งเป้าหมายลดใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งตลอดห่วงโซ่  ตอบโจทย์ผู้บริโภควิถีใหม่ สะดวก และปลอดภัย รวมถึงร่วมลดการใช้พลาสติก
     นายกิตติ หวังวิวัฒน์ศิลป์ ในฐานะประธานคณะทำงานบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการผลิตอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และเพียงพอสำหรับผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารที่ช่วยปกป้อง รักษาคุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม  ด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรตลอดกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายองค์กรคาร์บอนต่ำ 
     "ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยตลอดกระบวนการผลิตอาหาร ควบคู่กับการออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยเลือกใช้พลาสติกคุณภาพ Food Grade ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามหลักสากล ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย"  นายกิตติ กล่าว  
     ทั้งนี้  การบริหารจัดการด้านบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนเป้าหมายด้านการจัดการพลาสติกของประเทศไทย โดยภายในปี 2568 ซีพีเอฟมีเป้าหมายลดปริมาณของเสียที่กำจัดโดยการฝังกลบหรือเผาต่อหน่วยงานผลิต 35% เทียบกับปีฐาน 2558  และ 100% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติก ที่นำมาใช้บรรจุอาหาร สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือนำมาใช้ใหม่ หรือผลิตเป็นสินค้าใหม่ หรือย่อยสลายได้ สำหรับกิจการประเทศไทย และกำหนดเป้าหมาย ในปี 2573 สำหรับกิจการต่างประเทศ  
     ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีการติดตามและตรวจประเมินตลอดห่วงโซ่ ทั้งธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูป  ธุรกิจอาหาร  และช่องทางจำหน่าย เพื่อลดการใช้พลาสติก ตั้งแต่ในช่วงการผลิต การบริโภค การจัดการหลังการบริโภค  เช่น การนำแนวคิด  FEE มาใช้ในการออกแบบ พัฒนา และปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์อย่างเหมาะสม  ซึ่งประกอบด้วย  F หรือ Functional  คือ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุของอาหารให้นานขึ้น  ช่วยลดปัญหาขยะอาหาร(Food Waste)  เน้นบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการใช้ของผู้บริโภค และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เสียหายง่ายในระหว่างการขนส่ง  E  หรือ Emotional  คือ  พัฒนารูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และ E คือ  Ethics เน้นความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้บริโภค โดยใช้วัสดุคุณภาพดี  ได้มาตรฐานตามกฎหมาย  สามารถป้องกันการปนเปื้อนในอาหาร และคงคุณค่าทางโภชนาการ และมุมของการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 
     นอกจากนี้  ภายในปี 2568 ในส่วนของการแปรรูปเนื้อสัตว์และการผลิตอาหารสำเร็จรูป มีเป้าหมายลดการใช้กระดาษและพลาสติกในบรรจุภัณฑ์อาหารรวม  1,000 ตัน  การปรับวิธีการปิดปากถุงบรรจุไก่สดจากเดิม เป็นปิดปากถุงด้วยวิธีซีลด้วยความร้อน ช่วยให้บรรจุภัณฑ์ปิดสนิท เพิ่มความปลอดภัย  ทำให้ขนาดถุงเล็กลงช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกลง  เน้นออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็น MONO Material  ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่าย ซึ่งเป็นทิศทางที่จะมุ่งพัฒนาไปสู่การออกแบบ เพื่อการรีไซเคิล (Design for Recycle) เอื้อต่อผู้บริโภคในการคัดแยกขยะอีกด้วย