ADS


Breaking News

สถานการณ์วัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก

วิเคราะห์และประมวลข้อมูลโดย

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 

23 กุมภาพันธ์ 2564

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ติดตามข้อมูลสถานการณ์การฉีดวัคซีน การจองวัคซีนและประเด็นอื่นๆ ด้านวัคซีนโควิด-19 ในผู้ผลิตแต่ละรายของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ขอนำเสนอความคืบหน้าของสถานการณ์ดังนี้


1. วัคซีนโดสเดียวสามารถป้องกันอาการรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้

    จากข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในอังกฤษและสกอตแลนด์แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของการใช้วัคซีนเพียงหนึ่งโดสในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อที่รุนแรงและที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมทั้งลดอาการรุนแรงของผู้ที่มีอายุน้อยได้ การศึกษาจาก 3 แหล่งในอังกฤษและสกอตแลนด์ได้ข้อสรุปในทิศทางที่ดี

    อังกฤษได้ทำการศึกษาในบุคลากรทางการแพทย์ที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปี พบว่าวัคซีน Pfizer/BioNTech เพียง 1 โดสช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้ 70% และจะเพิ่มเป็น 85% หากได้รับโดสที่สอง โดยในการศึกษาติดตามนี้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนจะได้รับการตรวจเชื้อทุก 2 สัปดาห์

    Public Health England เปิดเผยผลการทดสอบในกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีโอกาสจะป่วยหนักและเสียชีวิต พบว่า 3 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีนของ Pfizer/BioNTech ครั้งแรก พบประสิทธิภาพการป้องกันโรค 57% ทั้งในผู้ที่มีอาการรุนแรงและไม่รุนแรง และในการติดตามต่อไปในผู้ที่ได้รับวัคซีนซึ่งมีจำนวนไม่มากที่ได้รับวัคซีนโดสที่สองแต่ก็บ่งชี้ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคถึง 85% นอกจากนี้ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนเมื่อติดเชื้อสามารถป้องกันอาการรุนแรง การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตได้ดีกว่าไม่ได้รับวัคซีน

    นอกเหนือจากช่วยลดการติดเชื้อแบบมีอาการแล้ว การให้วัคซีนแม้เพียง 1 โดสยังช่วยป้องกันอาการรุนแรงได้อย่างน้อย 75% ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้วัคซีนโดสแรกกับประชากรนับล้านคนและชะลอการให้โดสที่สองเป็นเวลา 12 สัปดาห์ 

    ข้อมูลผลการศึกษาของ มหาวิทยาลัยในสกอตแลนด์และ Public Health Scotland ได้มีการวิเคราะห์วัคซีน 2 ชนิด ได้แก่ Pfizer/BioNTech และ AstraZeneca ในช่วงเวลา 28 วัน ภายใน 4 สัปดาห์หลังจากให้วัคซีนทั้ง 2 ชนิดพบว่าสามารถลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลงได้ถึง 85% สำหรับวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ 94% สำหรับวัคซีนของ AstraZeneca ทั้งนี้สำหรับกลุ่มประชากรที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไปการฉีดวัคซีนช่วยลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลถึง 81% ภายในสี่สัปดาห์เมื่อพิจารณาผลของวัคซีนทั้งสองชนิดรวมกัน

2. ข้อมูลเปรียบเทียบวัคซีนแต่ละชนิด 

    วัคซีนของ Moderna , Pfizer/BioNTech และ AstraZeneca/Oxford ได้รับการรับรองหลายประเทศ โดยทุกชนิดจะมีการฉีดวัคซีนเข้าที่กล้ามเนื้อต้นแขนและให้ปริมาณ 2 โดส แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในประสิทธิภาพของวัคซีนอยู่บ้างแต่วัคซีนทั้ง 3 ชนิด สามารถป้องกันอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้ ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นได้ภายใน 1-2 วันและส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติภายใน 2-3 วัน

ผู้ผลิต

AstraZeneca/Oxford

Pfizer/BioNTech

Moderna

ชื่อวัคซีน

COVID-19 Vaccine AstraZeneca

BNT162b2

mRNA-1273

ชนิด

Adenovirus-based

mRNA

mRNA

ปริมาณที่ให้

2 โดส

(ห่างกัน 4-12 สัปดาห์)

2 โดส

(ห่างกัน 21 วัน)

2 โดส

(ห่างกัน 28 วัน)

ช่วงอายุ

18 ปีขึ้นไป

ไม่อนุญาตให้วัคซีนแก่ผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปในบางประเทศ

16 ปีขึ้นไป

18 ปีขึ้นไป

ห้ามใช้สำหรับ

  • ผู้ที่แพ้ส่วนผสมของวัคซีน (Hypersensitive to ingredients)

  • ผู้ที่มีไข้สูง

  • ผู้ที่แพ้รุนแรงต่อ PEG หรือ polysorbate (Anaphylaxis to ingredients, PEG or polysorbate)

  • เกิดการแพ้หลังได้รับ 1 โดส

  • ผู้ที่แพ้รุนแรงต่อ PEG หรือ polysorbate (Anaphylaxis to ingredients, PEG or polysorbate)

  • เกิดการแพ้หลังได้รับ 1 โดส

ผลข้างเคียงทั่วไป

  • ปวดบริเวณที่ฉีด

  • ปวดหัว

  • เมื่อยล้า

  • ปวดกล้ามเนื้อ

  • มีไข้

  • หนาวสั่น

  • ปวดข้อ

  • คลื่นไส้

  • ปวด บวม มีรอยแดงบริเวณที่ฉีด

  • หนาวสั่น

  • ปวดหัว

  • เมื่อยล้า

    • ปวด บวม มีรอยแดงบริเวณที่ฉีด

    • หนาวสั่น

    • ปวดหัว

    • เมื่อยล้า

    ผลประสิทธิภาพ

    ประมาณ 60%

    95%

    94%

    ราคาต่อโดส (อาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ)

    4 ดอลลาร์ (3 ปอนด์)

    20 ดอลลาร์ (15 ปอนด์)

    15-25 ดอลลาร์ (10-18 ปอนด์)

    ผลเริ่มป้องกัน

    15 วันหลังได้รับโดสที่สอง

    หรือ 22 วันหลังได้รับโดสแรก

    7 วันหลังได้รับโดสที่สอง หรือ 12 วันหลังได้รับโดสแรก

    14 วันหลังได้รับโดสที่สอง หรือ 14 วันหลังได้รับโดสแรก

    การเก็บรักษา

    6 เดือนในอุณหภูมิตู้เย็นทั่วไป

    • 6 เดือนในอุณหภูมิเย็นจัด

    • 5 วันในอุณหภูมิตู้เย็นทั่วไป

    • 2 ชั่วโมงที่อุณหภูมิห้อง

  • 7 เดือนในตู้แช่แข็ง

  • 30 วันในอุณหภูมิตู้เย็นทั่วไป

  • 12 ชั่วโมงที่อุณหภุมิห้อง

  • สิ่งที่ยังไม่ทราบ

    สามารถหยุดการแพร่กระจายของไวรัสได้หรือไม่ และนานแค่ไหน

    สามารถหยุดการแพร่กระจายของไวรัสได้หรือไม่ และนานแค่ไหน

    สามารถหยุดการแพร่กระจายของไวรัสได้หรือไม่ และนานแค่ไหน

    ความสามารถป้องกัน

    ไวรัสกลายพันธุ์

    • ประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันการเจ็บป่วยเล็กน้อยในผู้ที่มีอายุน้อยและมีสุขภาพดีที่ติดเชื้อสายพันธุ์ B.1.351 ที่พบในแอฟริกาใต้

    • ยังไม่ทราบว่าสามารถป้องกันอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ B.1.351 หรือไม่

    • น่าจะใช้ได้กับสายพันธุ์ B.1.1.7 ที่พบในสหราชอาณาจักร

    • ยังไม่ทราบว่าสามารถใช้งานได้กับสายพันธุ์ P.1 ที่พบในบราซิลได้หรือไม่

  • ไม่มีการทดสอบการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ในสถานการณ์จริง

  • ประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันไวรัสเสมือนของสายพันธุ์ B.1.351

  • ไม่มีการทดสอบการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ในสถานการณ์จริง

  • สามารถป้องกันไวรัสเสมือนของสายพันธุ์ B.1.1.7 ได้

  • ประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันไวรัสเสมือนของสายพันธุ์ B.1.351

  • Source: Centers for Disease Control and Prevention; European Medicines Agency; Food and Drug Administration; GOV.UK; Medicines & Healthcare products; Regulatory Agency; World Health Organization

    --

    ที่มาข้อมูล

    https://www.theguardian.com/world/2021/feb/22/one-vaccine-protection-severe-covid-evidence

    https://www.businessinsider.com/covid-vaccines-compared-vaccine-pfizer-oxford-moderna-astrazeneca-side-effects-2021-2