ADS


Breaking News

สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ 25 ส.ค. 63

รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 
ณ วันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2563
🇹🇭🇹🇭ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,402 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 5 ราย)
- เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 5 ราย

เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)

รักษาหายป่วยแล้ว 3,229 ราย (94.91%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 7 ราย)

รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 115 ราย (โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด สำหรับกลุ่มผู้ที่ติดเชื้อภายในประเทศรักษาหายทั้งหมดแล้ว)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State quarantine โดยมีรายละเอียดดังนี้
- มาจากประเทศอินโดนีเซีย 2 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี
- มาจากประเทศโอมาน 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี
- มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี
- มาจากประเทศตุรกี 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
🌐 สถานการณ์โลกในวันนี้
- สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสมยังคงอยู่ในอันดับที่ 1 ของโลก โดยมีตัวเลขใกล้ 6 ล้านรายแล้ว ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 41,484 ราย 
- เปรูยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 6 แสนรายแล้วในวันนี้ โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,112 ราย รั้งอันดับที่ 6 ของโลก
- อาร์เจนตินา สถานการณ์น่าเป็นห่วง โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทำสถิติสูงที่สุดของการรายงานที่ 8,713 ราย ยอดสะสมอยู่ที่ 350,867 ราย และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งสูงทำสถิติของการรายงานที่ 381 ราย 
- สถานการณ์ในยุโรปน่าเป็นห่วง โดยล่าสุดฝรั่งเศส มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกเกือบ 2,000 ราย โดยมีผู้รักษาอยู่อีกเกือบ 130,000 ราย  ทำให้เยอรมนีต้องออกประกาศเตือนจำกัดการเดินทางไปปารีสและโกตดาซูร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสโดยไม่จำเป็น
🌐 สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- ฟิลิปปินส์ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 194,252 รายแล้ว โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 4,686 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมที่ 3,010 ราย
- พม่า ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 24 ราย ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 474 รายแล้ว

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)