อลังการงานหัตถศิลป์ 2 งานใหญ่ โดย SACICT ที่สุดของภูมิปัญญาไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากรุ่นสู่รุ่น
SACICT เตรียมจัดงานหัตถกรรม 2 งานใหญ่ที่สุดของประเทศ
ดันกำลังซื้อหลังโควิด
ดันกำลังซื้อหลังโควิด
ช่วยผู้ประกอบการหัตถศิลป์
หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
เริ่มที่งาน “ศิลปาชีพทอใจ วิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 16 สิงหาคม 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี บนเนื้อที่กว่า 12,000 ตรม. โดยมีทั้งส่วนของนิทรรศการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และนิทรรศการพระราชกรณียกิจด้านศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ส่วนสาธิตการสร้างสรรค์งานศิลปาชีพจากสมาชิกศิลปาชีพทั่วประเทศ และการจัดแสดงวิถีชีวิตของชนเผ่าและกลุ่มชาติพันธุ์ พลาดไม่ได้กับการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และผู้ประกอบการหัตถศิลป์กว่า 400 ร้าน ในประเภท ผ้าไหม ผ้าผ้าย งานจักสาน งานเครื่องปั้น งานเครื่องประดับทอง-เงิน งานลงรัก ลายรดน้ำ งานหัตถกรรมจากชนเผ่า กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อาทิ ลาวครั่ง ไทเขิน ไททรงดำ ภูไท ไทยพวน เป็นต้น
และต่อเนื่องไปในเดือนกันยายน ด้วยงาน “CRAFTS BANGKOK 2020” ที่เลื่อนจากเดิมที่จะจัดในเดือนมีนาคม เพราะพิษโควิดจึงขยับมาเป็นวันที่ 3 - 6 กันยายน 2563 ณ ฮอลล์ 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการจัดประชุมไบเทค บางนา ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมผู้ผลิตและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์งานศิลปหัตถกรรมจากทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภูมิปัญญาไทย โดยนำความคิดสร้างสรรค์มาเพิ่มมูลค่า และนำเสนอคุณค่าผ่านสู่ผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตปัจจุบัน แต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ ความประณีตงดงาม ผสมผสานความร่วมสมัย โดยมีผู้ประกอบการหัตถศิลป์ร่วมกว่า 380 ร้านค้า พลาดไม่ได้กับการประกวด “ผ้าไทยใส่ได้ทุกGen” ซึ่งเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถด้านการออกแบบโดยนำองค์ความรู้จากผ้าศิลปาชีพ ทั้งผ้าฝ้าย ผ้าไหม และผ้าชาวเขา รวมทั้งผ้าไทยทอมือประเภทต่างๆ มาออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้สวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันอย่างร่วมสมัย
ผอ. SACICT กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “การจัดงานทั้ง 2 งานนี้ มีมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ร่วมงานอย่างเข้มข้น โดยยึดหลัก Social Distancing ทำให้สามารถเชื่อมั่นได้ว่าสามารถมาซื้อหาจับจ่ายใช้สอยผลิตภัณฑ์หัตถกรรมได้อย่างอุ่นใจ และภายในงานยังจะจัดให้มีการแสดงมหรสพเพื่อสร้างบรรยากาศความสุขให้กับผู้เข้าชมงาน SACICT จึงขอเชิญชวนคนไทยร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพและศิลปหัตถกรรมไทยในทั้ง 2 งานใหญ่ดังกล่าว นอกจากจะได้ผลิตภัณฑ์ที่สวยงามมีมาตรฐานแล้ว ยังเป็นการช่วยต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบการหัตถศิลป์ได้กลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้ง โดยเราคนไทยจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1289”