ADS


Breaking News

ห้างเซ็นทรัล เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ 23 สาขา ยกระดับรับ New Normal ชูคอนเซ็ปต์ “ห้างเซ็นทรัล สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจ เสมือนอยู่บ้าน”

บรรยากาศ "ห้างเซ็นทรัล" เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ
23 สาขาทั่วประเทศ
ณ โถงเปียโน ชั้น 1 ห้างเซ็นทรัลชิดลม
วันอาทิตย์ ที่ 17 พฤษภาคม 2563
บรรยากาศเปิดห้างวันแรก พร้อมมาตรการเข้มด้านสุขอนามัยของห้าง
"ห้างเซ็นทรัล" พร้อมคอนเซ็ปต์
"ห้างเซ็นทรัล สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจเสมือนอยู่บ้าน"
ด้วย 5 แม่บท 26 มาตรการเข้ม ภายใต้
ข้อกำหนดภาครัฐ
ครอบคลุม 5 หัวข้อหลัก สอดรับข้อกำหนดของรัฐบาล

- "ปลอดภัยสูงสุด" (Central is...Safe)

- "เคร่งครัด คัดกรอง" (Central is...Screening)

- "สะอาด ปลอดภัย ไร้กังวล" (Central is...Clean)

- "เว้นห่าง อย่างห่วงใย" (Central is...Distancing)

- "ลดเสี่ยงจากสัมผัส" (Central is...A Touchless Experience)
“ห้างเซ็นทรัล” เปิด 23 สาขาทั่วประเทศ
อีกครั้ง 17 พ.ค. 63 ชูคอนเซ็ปต์
“ห้างเซ็นทรัล สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจ เสมือนอยู่บ้าน”
ด้วย 5 หัวข้อหลัก 26 มาตรการเข้ม ตามแนวทางของภาครัฐ 


ห้างเซ็นทรัล 23 สาขาทั่วประเทศ เปิดบริการอีกครั้ง 17 พ.ค. 63 ตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ชูคอนเซ็ปต์สร้างความเชื่อมั่น “ห้างเซ็นทรัล สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจ เสมือนอยู่บ้าน ครอบคลุม 5 หัวข้อหลัก 26 มาตรการเข้มด้านสุขอนามัย สอดรับข้อกำหนดของรัฐบาล เพื่อให้ลูกค้ามาช้อปปิ้งอย่างอุ่นใจ ปลอดภัยเหมือนอยู่ที่บ้าน และพนักงานได้รับการดูแลอย่างดี 
ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล เปิดเผยว่า “เป็นที่น่ายินดีว่า ห้างเซ็นทรัล ได้กลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2563 คือการส่งสัญญาณว่าสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลายลงเป็นอันมาก แต่อย่างไรก็ตามในการกลับมาเปิดให้บริการในครั้งนี้ ห้างเซ็นทรัลยังคงตระหนักถึงความสำคัญของสุขอนามัย และความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน รวมถึงพนักงานในร้านค้าทุกคนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการมาใช้บริการหรือปฏิบัติงานที่ห้างเซ็นทรัล เราจึงได้วางคอนเซ็ปต์ “ห้างเซ็นทรัล สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจ เสมือนอยู่บ้าน” โดยมีข้อกำหนดครอบคลุมใน 5 หัวข้อหลัก 26 มาตรการเข้มด้านสุขอนามัย ที่จะทำให้ทุกพื้นที่ของห้างฯ เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองที่มีความสะอาด ปลอดภัย ไร้ความกังวล ของทุกคน อันสอดคล้องกับมาตรการของภาครัฐ ดังนี้


หัวข้อหลักที่ 1 “ปลอดภัยสูงสุด” (Central isSafe)
  • พนักงานต้องสวมหน้ากากอนามัย และเฟซชิลด์ (Face Shield) ตลอดเวลา ขณะปฏิบัติงาน และทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังบริการ
  • ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานทุกคน ทุก 3 ชั่วโมง
  • ควบคุมดูแลระบบระบายอากาศหมุนเวียน (Air Change) มากกว่า 10 เท่า เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งยังเพิ่มระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UVC ในระบบปรับอากาศตลอดเวลา
  • มีระบบติดตาม (Tracking) ข้อมูลลูกค้าที่มาใช้บริการ รวมถึงพนักงานที่เข้ามาปฏิบัติงานที่ห้างสรรพสินค้า


หัวข้อหลักที่ 2 “เคร่งครัด คัดกรอง” (Central isScreening)
  • ให้บริการตรวจวัดอุณหภูมิ และบริการเจลแอลกอฮอล์ ก่อนเข้าห้างฯ ให้กับลูกค้า พนักงาน ทั้งหน้าร้านและสำนักงาน รวมถึงพนักงานร้านเช่า ตลอดจนผู้มาติดต่องาน หากพบว่ามีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ และแนะนำให้ไปพบแพทย์ทันที
  • ลูกค้า พนักงานหน้าร้าน และสำนักงาน รวมถึงพนักงานร้านเช่า และผู้มาติดต่องาน ต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าห้างฯ หากไม่ได้เตรียมมา จะแนะนำให้ซื้อที่จุดคัดกรอง ซึ่งมีการตั้งโต๊ะจำหน่าย 
  • คัดกรองความเสี่ยงของพนักงานทุกคนก่อนกลับเข้ามาปฏิบัติงาน โดยให้พนักงานทำแบบประเมินตนเอง (Self-Assessment) ผ่านลิงก์ หรือคิวอาร์โค้ดที่บริษัทฯ กำหนด หากพบความเสี่ยง พนักงานจะต้องปฏิบัติตามแนวทางการกักตัว (Self-Quarantine) มีการติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอย่างน้อย 14 วัน รวมทั้งหมั่นตรวจสอบอาการตนเองสม่ำเสมอ


หัวข้อหลักที่ 3 “สะอาด ปลอดภัย ไร้กังวล” (Central isClean)

  • สินค้าที่จำเป็นต้องสัมผัสกับลูกค้าโดยตรง อาทิ ชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ เสื้อผ้า รองเท้า หรือแผนกเครื่องครัว ต้องนำสินค้าที่ลองหรือสัมผัสแล้ว ไปฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งทำความสะอาดภายในห้องลองด้วยการฆ่าเชื้อโรคทุกครั้งหลังใช้บริการ 
  • ปูผ้าหุ้มพรม บริเวณประตูทางเข้า-ออก ห้างฯ พร้อมพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และเปลี่ยนผ้าวันละ 2 รอบ หรือบ่อยครั้งตามความเหมาะสมของแต่ละสาขา 
  • ติดตั้งเครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วย UVC แบบอัตโนมัติที่ราวบันไดเลื่อน ห้างเซ็นทรัล (บางสาขา) 
  • จัดให้มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ อาทิ ทางเข้าห้างฯ จุดประชาสัมพันธ์ เคาน์เตอร์แคชเชียร์ และในลิฟต์ทุกตัว รวมทั้งตรวจจุดติดตั้งเครื่องเจลแอลกอฮอล์ ทุก 2 ชั่วโมง เพื่อเติมไม่ให้ขาด 
  • ทำความสะอาดห้องน้ำทุก 30 นาที และติดตั้งเครื่องจ่ายเจลแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อโรคบนฝาสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ 
  • ทำความสะอาดตามรอบความถี่ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งทำความสะอาด Deep Cleaning ทั่วพื้นที่ขาย และห้องให้บริการต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เครื่องอบโอโซน และเครื่อง UVC เคลื่อนที่ หลังปิดทำการในแต่ละวัน 
  • ทำความสะอาดในจุดที่ลูกค้าสัมผัสมากด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อโรคทุกครึ่งชั่วโมง อาทิ ราวบันไดเลื่อน ที่จับประตู และปุ่มกดลิฟต์ 
  • ทำความสะอาดบัตรจอดรถและบัตรศูนย์อาหาร ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนและหลังการใช้งานทุกครั้ง


หัวข้อหลักที่ 4 คือ “เว้นห่าง อย่างห่วงใย” (Central isDistancing)
  • จำกัดจำนวนคนเข้าห้างฯ ไม่เกิน 1 คน ต่อ 5 ตร.ม. โดยมีระบบในการนับที่เคร่งครัด 
  • กำหนดจุดเว้นระยะห่าง ทุกประตูทางเข้า-ออก และทุกจุดให้บริการ อาทิ เคาน์เตอร์แคชเชียร์ เคาน์เตอร์บริการลูกค้า จุดเข้าคิวห้องน้ำ จุดแลกซื้อ จุดรอลิฟต์ บันไดเลื่อน ร้านและศูนย์อาหาร 
  • มีการจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง ณ พื้นที่ห้องบริการ และที่นั่งคอยในพื้นที่ขาย บริเวณเคาน์เตอร์ รวมถึงจุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับภาชนะต่างๆ ในห้องเลาจน์ อาทิ แก้วน้ำ และช้อน เปลี่ยนเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง 
  • จัดให้มีพื้นที่ติดต่อของบุคคลภายนอก และพนักงานรับส่งอาหาร โดยจัดทำป้าย และสติ๊กเกอร์การเว้นระยะห่าง รวมทั้ง ทำความสะอาดตามรอบที่กำหนด 
  • มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ เพื่อให้ลูกค้าเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างกัน ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข 
  • กำหนดทางเข้า-ออกของลูกค้า โดยใช้คนละข้างของประตู 
  • ทำฉากกั้นใส (Window Shield) ที่เคาน์เตอร์บริการลูกค้า และบนโต๊ะรับประทานอาหาร (Table Shield) ในร้านและศูนย์อาหาร 
  • ทำป้ายรณรงค์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 พร้อมข้อควรปฏิบัติในแต่ละพื้นที่ อาทิ การใช้ห้องน้ำ การใช้ลิฟต์ และการใช้บันไดเลื่อนที่ปลอดภัย
หัวข้อหลักที่ 5 คือ “ลดเสี่ยงจากสัมผัส” (Central isA Touchless Experience) อาทิ
  • ส่งเสริมการชำระเงินผ่านโมบายแบงกิ้ง หรืออีเพย์เมนต์ แทนการชำระเงินสด 
  • กรณีลูกค้าชำระเงินสด ทั้งธนบัตรและเหรียญที่ได้รับจะแยกไว้เพื่อนำไปฆ่าเชื้อโรคโดยการอบโอโซน และเงินที่ทอนให้ลูกค้าจะมีการใส่แผ่นรองเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง 
  • ติดตั้งแป้นเปิดประตูด้วยเท้าที่ประตูห้องน้ำ และห้องบริการต่างๆ เพื่อเลี่ยงการสัมผัสประตู
พร้อมกันนี้ ห้างเซ็นทรัล ยังได้ปรับเปลี่ยนเวลาการเปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง ดังนี้

จันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่ 11:00-20:00 น. และศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 10:00-20:00 น. ได้แก่ สาขา ชิดลม, ลาดพร้าว, บางนา, ปิ่นเกล้า, พระราม 2, พระราม 3, รามอินทรา, เซ็นทรัลเวิลด์, ภูเก็ต, แจ้งวัฒนะ, พัทยา บีช, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่, สมุย, ศาลายา, เวสต์เกต, อีสต์วิลล์ และนครราชสีมา


ทุกวัน ตั้งแต่ 11:00-20:00 น. ได้แก่ สาขา หาดใหญ่, กาดสวนแก้ว, สีลม คอมเพล็กซ์, ฟิวเจอร์พาร์ค และป่าตอง


“ห้างเซ็นทรัล ขอขอบคุณลูกค้า และพนักงานทุกท่าน ที่เข้าใจถึงสถานการณ์อันยากลำบาก ที่เราได้เผชิญมาด้วยกันนี้ โดยทุกท่านยังคงสนับสนุนห้างเซ็นทรัลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดิฉันเชื่อว่ามาตรการที่กำหนดขึ้นเพื่อดูแลกันและกันนี้ จะสร้างความมั่นใจให้ทุกท่าน เมื่อมาใช้บริการหรือปฏิบัติงานที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา จะรู้สึกปลอดภัย อุ่นใจเหมือนอยู่บ้าน และเรากำลังจะก้าวผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้ด้วยดีค่ะ” ณัฐธีรา กล่าว
ทั้งนี้ จากผลการตอบรับที่ดีในช่วงที่ผ่านมา ห้างเซ็นทรัลยังคงให้มีบริการ ช้อปปิ้งสินค้าทุกประเภทของห้างฯ ผ่าน 3 ช่องทางช้อปปิ้งง่ายๆ เหมือนยกห้างเซ็นทรัลไปไว้ที่บ้าน ได้แก่ ช้อปฯ ออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.central.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง Central Chat & Shop ช้อปฯ ผ่านแชตบนแอปพลิเคชั่น Line เพียงแอด @CENTRALOFFICIAL และบริการ Call & Shop ให้ช้อปฯ ผ่าน โทร.02-793-7555 พร้อมบริการรับสินค้าและชำระเงินผ่านบริการ Drive Thru โดยไม่ต้องลงจากรถที่ห้างเซ็นทรัล 12 สาขา ได้แก่ ชิดลม, ลาดพร้าว, บางนา, ปิ่นเกล้า, พระราม 2, ฟิวเจอร์พาร์ค, เวสต์เกต, อีสต์วิลล์, พัทยา บีช, ภูเก็ต, เฟสติวัล หาดใหญ่ และเฟสติวัล เชียงใหม่ (ตั้งแต่ 11:00-19:00 น.)