ADS


Breaking News

Monthly Customs Press 4 /2563 โดย กรมศุลกากร

     วันนี้ (วันที่ 13 มกราคม 2563) เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าว ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายให้มีการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเชิงนโยบาย โครงการ และประเด็นต่าง ๆ โดยมอบหมายให้คณะโฆษกกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการ และได้กำหนดให้มีการแถลงข่าวประจำทุกเดือน สำหรับประเด็นที่น่าสนใจ ในการแถลงข่าวประจำเดือนมกราคม 2563 (Monthly Customs Press 4 /2563) ได้แก่ (1) ผลการตรวจพบการกระทำความผิดประจำเดือนธันวาคม 2562 (2) กรมศุลกากรยึดมะพร้าว ลักลอบเข้าประเทศกว่า 20 ตัน (3) กรมศุลกากรตรวจค้นโกดังสินค้า พบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท (4) กรมศุลกากรเปิดทดลองใช้ระบบ Customs Chatbot นายอากร
คุณชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร
ให้ข้อมูล
     โดยมีรายละเอียดในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

     (1) ผลการตรวจพบการกระทำความผิดประจำเดือนธันวาคม 2562
     ตามที่ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดพร้อมหน่วยปฏิบัติการวางแผนตรวจค้นจับกุมอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สินค้าเกษตร น้ำมัน ยาเสพติด IPRs และสินค้าละเมิดอนุสัญญา CITES โดยสืบสวนหาข่าวและออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ ตรวจค้นรถบรรทุก โกดัง บ้านเรือน แหล่งจำหน่าย สถานที่เก็บรักษาที่เชื่อได้ว่ามีของผิดกฎหมายเก็บซุกซ่อนอยู่ อีกทั้งยังมีแผนการป้องกันและปราบปรามสินค้าดังกล่าวในช่วงเวลาซึ่งมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการลักลอบ นอกจากนี้ มีการบูรณการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทหาร กอ.รมน. ปปส. บช.ปส. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่างๆ Interpol DEA เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวระหว่างกัน
     สำหรับเดือนธันวาคม 2562 กรมศุลกากรตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับศุลกากรได้ทั้งสิ้น 1,633 คดี คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 102 ล้านบาท เป็นจำนวนคดีจากการลักลอบร้อยละ 30.2 จากการหลีกเลี่ยงร้อยละ 69.8 ทั้งนี้ มีสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบนำเข้าที่สำคัญได้แก่ นาฬิกาข้อมือ บุหรี่ กระเป๋าชนิดต่าง ๆ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน

     สำหรับผลงานที่น่าสนใจในช่วงเดือนธันวาคม 2562 มีดังนี้

     1.ยาเสพติด

1.1 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 กรมศุลกากร ได้สืบสวนติดตามข้อมูลของกลุ่มผู้เดินทางที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย โดยได้ทำการตรวจสอบผู้โดยสารต้องสงสัยชาวกิเนียน เดินทางมาจากประเทศกินี ปลายทางกรุงเทพ ผลการตรวจสอบพบว่าผู้โดยสารคนดังกล่าวน่าจะเป็นผู้ที่ลักลอบยาเสพติดด้วยวิธีการกลืน จึงนำตัวไปตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ร่างกาย ผลการตรวจสอบพบสิ่งแปลกปลอมจำนวนมากในช่องท้อง ซึ่งต่อมาผู้ต้องสงสัยได้ถ่ายวัตถุแปลกปลอมออกมา ผลการตรวจสอบด้วย Raman Spectrometer ให้ผลเป็นโคคาอีน (ยาเสพติดให้โทษประเภท 2) และต่อมาผู้ต้องหาได้ถ่ายยาเสพติดออกมาต่อเนื่อง รวมทั้งสิ้นจำนวน 42 ก้อน น้ำหนัก 575 กรัม จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมโคคาอีน จำนวนดังกล่าว มูลค่า 1.275 ล้านบาท ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

1.2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2562 กรมศุลกากร ได้ตรวจพบพัสดุต้องสงสัย ณ ส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ จำนวน 1 หีบห่อ ต้นทางประเทศสโลเวเนีย สำแดงชนิดของเป็น LED แต่ผลการตรวจพบเป็นเม็ดยาสีฟ้า ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (Ecstasy) จำนวน 1,010 เม็ด และกัญชาแห้ง จำนวน 285 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในป้ายไฟ LED กรมศุลกากรจึงร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ดำเนินการขยายผลไปยังผู้รับปลายทาง พบว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ต้องสงสัยที่จำหน่ายยาเสพติดตามสถานบันเทิง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

     2.สินค้าเกษตร

2.1 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม กรมศุลกากร ได้จับกุมรถบรรทุกพ่วง บรรทุกข้าวสารเหนียว จำนวน 660 กระสอบ กระสอบละประมาณ 48 กก. ลักลอบหนีศุลกากร บริเวณริมถนนมิตรภาพ(ขาเข้า กทม.) ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท และเจ้าของของได้มาทำความตกลงระงับคดีโดยยกของกลางให้เป็นของแผ่นดินเสร็จสิ้นแล้ว

2.2 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 กรมศุลกากร ได้ตรวจค้น โกดังแห่งหนึ่ง ตำบลบางเลน อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม พบสินค้าเกษตรประเภทหอมแขกพม่า จำนวน 740 กระสอบ น้ำหนักโดยประมาณ 6 ตัน มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ ไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดงขณะตรวจค้น รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท และเจ้าของโกดังได้มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมระงับคดีกับกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     (2) กรมศุลกากรยึดมะพร้าว ลักลอบเข้าประเทศกว่า 20 ตัน
     ตามที่กรมศุลกากรได้มีนโยบายสำคัญในการปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม และเข้มงวดพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า สินค้าเกษตร และสินค้าควบคุมการนำเข้าและขนย้าย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้ นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร โดยมอบหมายให้นายธาดา ชุมไชโย ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม นายไชยทัต นิวาศะบุตร รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนและปราบปราม และนายศิริศักดิ์ ตั้งสุภากิจ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 1 ให้เข้มงวดกวดขันในการสืบสวนและปราบปรามการลักลอบนำเข้าและขนส่งสินค้าพืชเกษตร นั้น
     เมื่อวันพุธที่ 8 มกราคม 2563 เวลา 04.00 น. กรมศุลกากร โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามปราณบุรี ฝ่ายสืบสวนปราบปราม 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปราม ได้ทำการตรวจค้นรถ 6 ล้อบรรทุก และได้ยึดผลมะพร้าวปอกเปลือก จำนวน 11 ตัน ที่บรรทุกมาพร้อมกับรถคันดังกล่าวในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงของ ด่านตรวจของศุลกากรปราณบุรี
     ต่อมา เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามปราณบุรี ได้ตรวจค้นรถ 10 ล้อบรรทุก และยึดผลมะพร้าวปอกเปลือก ได้เพิ่มอีกจำนวน 9 ตัน รวม 2 วัน ยึดได้ทั้งหมด 20 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 280,000 บาท


กรมศุลกากรยึดมะพร้าว ลักลอบเข้าประเทศกว่า 20 ตัน

     โดยที่มะพร้าวปอกเปลือกดังกล่าว ลักษณะสินค้ามีเมืองกำเนิดต่างประเทศ ไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรอย่างถูกต้องมาแสดง และจัดเป็นสินค้าควบคุมการนำเข้าและขนย้าย ต้องปฏิบัติตามมาตรการการจัดระเบียบในการนำเข้าของกระทรวงพาณิชย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามปราณบุรีจึงได้ทำการยึดของดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

     (3) กรมศุลกากรตรวจค้นโกดังสินค้าพบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
     ตามที่กรมศุลกากรได้มีนโยบายสำคัญในการปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม และเข้มงวดพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า สินค้าเกษตร และสินค้าควบคุมการนำเข้าและขนย้าย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ได้มอบนโยบายให้เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีและป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าในเขตพื้นที่ของสำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 ดังนั้น นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี จึงได้มอบหมายให้ นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 และนายดิเรก คชารักษ์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สั่งการให้ นายประทีป สมมัง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 ทำการสกัดกั้นและจับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเคร่งครัด
     โดยในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 นำโดย นายประทีป สมมัง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามร่วมกับ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ บูรณาการร่วมกับ จนท.ทหาร กกล.บูรพา, กรม.ทพ.12, สภ.คลองลึก, กก.1 บก. ปอศ. ฝ่ายปกครอง อ.อรัญประเทศ ได้ทำการตรวจค้นโกดังสินค้า ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
     (4) กรมศุลกากร เปิดทดลองใช้ระบบ Customs Chatbot นายอากร
     กรมศุลกากรได้พัฒนาระบบการตอบคำถามและให้บริการข้อมูลด้านศุลกากรโดยอัตโนมัติ หรือ Customs Chatbot เพื่อพัฒนากระบวนงานในการให้บริการให้มีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง สอดคล้องกับการพัฒนาองค์กรสู่ Customs 4.0 โดย Chatbot ที่พัฒนาขึ้นจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการประชาสัมพันธ์และการให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านพิธีการศุลกากร พิกัดอัตราศุลกากร กฎหมายศุลกากร กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรในด้านต่าง ๆ เช่น คลังสินค้าทัณฑ์บน เขตปลอดอากร เขตประกอบการเสรี การขอคืนอากร ซึ่งการนำระบบ Customs Chatbot มาใช้ในการตอบคำถามโดยอัตโนมัติจะสามารถเข้าถึงผู้รับบริการได้อย่างทั่วถึง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อในวันเวลาราชการ สามารถลดเวลาและค่าใช้จ่ายของผู้รับบริการ โดยกรมศุลกากรจะมีการจัดงานเปิดตัวระบบ Customs Chatbot นายอากร ในวันที่ 30 มกราคม 2563 ณ ห้องโถง อาคาร 1 กรมศุลกากร


คุณชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร

ถามตอบสื่อมวลชน
https://www.facebook.com/737048116416039/videos/589453664953266