CRC IPO “เซ็นทรัล รีเทล” เสนอขายหุ้นที่ 40 - 43 บาทต่อหุ้น จัดเต็มโรดโชว์ IPO สุดๆตลาดทุนไทย
“เซ็นทรัล รีเทล” กำหนดช่วงราคาการเสนอขายหุ้นที่ 40 - 43 บาทต่อหุ้น เดินหน้าโรดโชว์ IPO ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำค้าปลีกไทยในระดับโลก
บันทึกภาพร่วมกัน
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล (CRC) กล่าวถึงความคืบหน้าของแผนงานในการนำเซ็นทรัล รีเทล เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ว่า “ผมและทีมผู้บริหารมีความมั่นใจว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมและพร้อมที่สุดสำหรับเซ็นทรัล รีเทล ที่จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จขั้นต่อไปในการเสนอขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากปัจจัยสนับสนุนทางเศรษฐกิจ จุดแข็งและ กลยุทธ์การเติบโตของเซ็นทรัล รีเทล ที่จะมุ่งไปข้างหน้าสู่ New Central New Retail เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในตลาดค้าปลีกระดับโลก รวมทั้งผลตอบรับที่น่าพอใจอย่างมากจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำระดับโลก”
“นอกจากนี้ นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและยินดีที่การเสนอขายหุ้นสามัญของเซ็นทรัล รีเทล ในครั้งนี้จะมีขนาดใหญ่ที่สุดของตลาดทุนไทย นับเป็นการเพิ่มสินค้าที่มีคุณภาพให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงการที่นักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลกให้ความสนใจในการลงทุนก่อนในจำนวนสูงขนาดนี้ เกิดจากความมั่นใจในความแข็งแกร่งและศักยภาพของเรา ผมหวังว่า IPO ของเซ็นทรัล รีเทล จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศและความสนใจในการลงทุนของนักลงทุนทั้งในประเทศและในต่างประเทศให้มีความคึกคักยิ่งขึ้น” นายทศ กล่าว
คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล (CRC) กล่าว
การเสนอขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการบริหารงานตลอด 72 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากในตอนนี้ เซ็นทรัล รีเทล มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัดด้วยรูปแบบธุรกิจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่นที่รวบรวมแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำหลากหลายประเภท (Multi-category) ใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแฟชั่น กลุ่มฮาร์ดไลน์ และกลุ่มฟู้ด ในหลากหลายรูปแบบและช่องทาง (Multi-format) ที่ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ (Multi-market) โดยมีแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำมากมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ซูเปอร์สปอร์ต เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป เพาเวอร์บาย ไทวัสดุ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ในประเทศไทย รวมไปถึงบิ๊กซี/GO! เหงียนคิม ลานชีมาร์ท ในประเทศเวียดนาม และ รีนาเชนเต ห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี นอกจากความแข็งแกร่งของ เซ็นทรัล รีเทล จากการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกหลากหลายรูปแบบและช่องทางในหลายประเทศแล้ว เรายังเป็นผู้นำในการให้บริการผ่าน Customer-Centric Omni-channel แพลตฟอร์มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสามารถใช้ประสิทธิภาพจากเครือข่ายร้านค้าที่ครอบคลุมควบคู่ไปกับช่องทางออนไลน์ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อและแตกต่างสำหรับลูกค้า พร้อมมุ่งสู่ทศวรรษแห่งการต่อยอดการเติบโตของเซ็นทรัล รีเทล”
นายปิยะ งุ่ยอัครมหาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บมจ. เซ็นทรัล รีเทล (CRC) กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายสาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงการปรับปรุงสาขาต่าง ๆ อาทิ 1. การขยายสาขาใหม่ของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ 2. การขยายสาขาของไทวัสดุ 3. การขยายสาขาของบิ๊กซี/GO! ในประเทศเวียดนาม 4. การปรับปรุงสาขาต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่มธุรกิจ และการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมุ่งขยายความสำเร็จในระดับโลกอย่างมั่นคงในระยะยาว”
หุ้นสามัญของ CRC ที่จะเสนอขายในครั้งนี้ มีจำนวนไม่เกิน 1,691,000,000 หุ้น โดยแบ่งออกเป็น (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,331,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 22.1 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (ไม่รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน หากมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ซึ่งหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าว ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ‘ROBINS’ ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ผ่านการแลกหุ้น (Share Swap) และหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายและจัดสรรให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก และ (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Hawthorn Resources Limited (ผู้ถือหุ้นเดิม) จำนวนไม่เกิน 360,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 6.0 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (ไม่รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน หากมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Overallotment Option หรือ Greenshoe) จำนวนไม่เกิน 169,100,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายในครั้งนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ในการรักษาระดับราคาหุ้น (Stabilization) เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนเกี่ยวกับเสถียรภาพของราคาหุ้นในช่วง 30 วันแรกหลังหุ้นของ CRC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกของ CRC จะดำเนินการควบคู่ไปกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ROBINS เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของ ROBINS ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของ CRC ในการนี้ CRC จึงจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CRC ส่วนหนึ่งให้เป็นค่าตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นของ ROBINS ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ โดยการนำหุ้นสามัญของ ROBINS มาขายในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งผู้ถือหุ้น ROBINS จะได้รับค่าตอบแทนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CRC แทนการชำระด้วยเงินสด (Share Swap) โดยคำนวณจากอัตราแลกหุ้นที่ราคาเสนอซื้อเท่ากับ 66.50 บาทต่อหุ้น ROBINS 1 หุ้นกับราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CRC ที่ช่วงราคาเสนอขาย [40] - [43] บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นช่วงอัตราแลกหุ้นที่ประมาณ [1.55] ถึง [1.66] หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของ CRC ต่อ 1 หุ้นสามัญเดิมของ ROBINS โดยกรณีที่มีเศษ จะปัดเศษทั้งหมด
ตอบคำถามสื่อมวลชน
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของ Robinson โดย Central Retail
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) (“ROBINS”) ได้รับหนังสือแจ้งจากบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“CRC”) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ROBINS เรื่องการปรับโครงสร้างธุรกิจภายใต้กลุ่ม CRC เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับ CRC ในการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรกและการนำหุ้นของ CRC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) (“การทำ IPO”) โดย CRC มีความประสงค์ที่จะรวมธุรกิจค้าปลีกต่าง ๆ ของ CRC ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และประเทศอิตาลี ให้เข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียงบริษัทเดียว เพื่อให้เป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and multi-category) เพื่อให้ผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยการขยายธุรกิจห้างสรรพสินค้าภายใต้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียงบริษัทเดียว และเพื่อสร้างบริษัทที่เป็นแกนนำในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และเป็นช่องทางที่จะทำให้ธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลสามารถขยายไปยังตลาดอื่น ๆ ผ่านการค้าปลีกหลากหลายรูปแบบที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล (CRC) ให้สัมภาษณ์