เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าสู้ศึกส่งท้ายปี อัดแคมเปญกระตุ้นนักช้อปช่วงไฮซีซั่น หวังโกยยอดปี 2019 รวม 58,000 ล้าน
เดอะมอลล์ กรุ๊ป
เดินหน้าอัดโปรโมชั่นกระตุ้นนักช้อปส่งท้ายปี
ทุ่มงบกว่า 350 ล้านบาท
เดินหน้าอัดโปรโมชั่นกระตุ้นนักช้อปส่งท้ายปี
ทุ่มงบกว่า 350 ล้านบาท
จัดแคมเปญ “The Mall Group Joy of Giving”
จัดเต็มทั้งโปรโมชั่นและหลากหลายกิจกรรมความบันเทิง
คืนความสุขให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ มั่นใจพิชิตยอดขายช่วงไตรมาสที่ 4 กว่า 16,800 ล้านบาท
จัดเต็มทั้งโปรโมชั่นและหลากหลายกิจกรรมความบันเทิง
คืนความสุขให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ มั่นใจพิชิตยอดขายช่วงไตรมาสที่ 4 กว่า 16,800 ล้านบาท
และปิดยอดขายปี 2019 รวม 58,000 ล้านบาท
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Miss Voralak Tulaphorn ; Chief Marketing Officer, The Mall Group Co., Ltd.) กล่าวว่า “สำหรับทิศทางธุรกิจรีเทลในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตจากปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาครัฐ ที่หนุนให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยมีความคึกคัก ส่งผลให้มีการกระจายของเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น รวมถึงภาคธุรกิจเริ่มมีความตื่นตัวลุกขึ้นมาจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นส่งเสริมเสริมการขายกันมากขึ้น เพราะช่วงปลายปีถือเป็นไฮซีชั่นของทุกธุรกิจ เป็นช่วงที่ลูกค้าจับใช้จ่ายใช้สอยซื้อสินค้า ของขวัญ ของฝาก รวมถึงบริการต่างๆ มากที่สุดช่วงหนึ่ง และเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี พร้อมคืนความสุขให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 350 ล้านบาท จัดแคมเปญ “The Mall Group Joy of Giving” อัดโปรโมชั่นแบบจัดเต็มทั้งส่วนลด, ของรางวัลพิเศษ และกิจกรรมอีกมากมาย โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2562 – 12 ม.ค. 2563 (รวม 60 วัน) ที่เดอะมอลล์ ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ รวมถึงการสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ในการช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ได้เข้ามาใช้บริการ”
ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในช่วงไตรมาสที่ 4 ไปจนถึงปี 2563 เรายังคงมุ่งเน้นการสร้างห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ให้เป็นสถานที่ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างครบครัน ด้วยหลากหลายกลยุทธ์ โดยหนึ่งในนั้นยังคงเป็นเรื่อง “Digitization” คือการใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลในการทำการตลาดแบบครบวงจร ทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ เพื่อเข้าถึงความต้องการของฐานลูกค้าหลักของเรา คือลูกค้า M Card ซึ่งมีกว่า 4 ล้านราย และลูกค้า SCB M VISA ที่มีกว่า 6 แสนคน ได้อย่างใกล้ชิด ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือใน M Card Application หรือ Line Application เราจะมี E-Coupon มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ และเรายังให้ความสำคัญกับเรื่อง “Data Analytics” ในการทำแคมเปญต่างๆ โดยต้องดู Fact & Figure ไม่ใช่แค่ Feeling เพียงอย่างเดียว ซึ่งเราได้ใช้ Big Data ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อความถูกต้องแม่นยำ ดังนั้น Data Analytics จึงสำคัญมาก เพราะช่วยให้เราเข้าใจลูกค้าและนำไปใช้ในการทำแคมเปญและกิจกรรมต่างๆที่ตรงใจลูกค้าตลอดเวลา
นอกจากนี้การเข้าถึง “Customer Journey” ยังเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เราทำอย่างต่อเนื่อง จากการติดตาม Customer Journey ของฐานลูกค้าสมาชิกที่ถือบัตร M CARD ทำให้พบว่า Journey ของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งเมื่อเราเข้าใจพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ และ Journey ของลูกค้า เราจะสามารถเปลี่ยน Journey ของลูกค้าได้ โดยเราต้องทำให้ Journey และ Experience ของลูกค้าดีขึ้นทุกครั้งเมื่อมาใช้บริการ โดยทุกพื้นที่ภายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าต้องเป็น Seamless Touchpoint รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษที่มอบให้กับลูกค้าต้องเหมือนกันทั้งออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนี้ ยังต้องสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Seamless ที่ผสานการช้อปปิ้งของศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า รวมถึงการตกแต่งบรรยากาศและการจัดอีเว้นท์เพื่อสร้างสีสันและดึง engagement ลูกค้า และเพื่อให้ “Time Spend” หรือระยะเวลาที่ลูกค้าจะใช้ชีวิตอยู่ภายในศูนย์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของ Time Spent จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทางกลุ่มเดอะมอลล์ใช้เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ เพราะเมื่อลูกค้าใช้เวลาอยู่ในศูนย์นานขึ้นโอกาสในการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าภายในห้างฯและศูนย์ฯ ก็จะมีเพิ่มมากขึ้นไปด้วย
เพื่อส่งเสริมการทำการตลาดให้มีความแข็งแกร่งและเข้มข้นขึ้น เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เสริมกลยุทธ์อื่นๆ เพิ่มเข้าไป ได้แก่
- Innovation คิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ก้าวทันเทรนด์โลก และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น Application ของเราเป็น Super App คือเป็น CRM App ที่ Loyalty โดยเราจะทำแคมเปญการตลาดและกิจกรรม ที่ใส่ความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งสร้างเรื่องราวและประสบการณ์พิเศษใหม่ๆให้กับลูกค้า
- Cross Category Spending / Cross Action ของ Category การจัดกลุ่มสินค้าและบริการภายในศูนย์ฯและห้างฯ ให้มีความหลากหลายในรูปแบบ Cross Category ตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป็นหลัก โดยใช้มุมของลูกค้าเป็นตัวตั้งและจัดให้สินค้าอยู่ในหลายๆแผนก เพื่อมอบประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่ดีที่สุดและสร้างความสนุกในการช้อปปิ้ง ให้ลูกค้า
- Collaboration การผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าเหมือนกัน ในการทำแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งขยายฐานกลุ่มลูกค้ามากขึ้น การร่วมกับพันธมิตรแบรนด์สินค้า ร้านค้าทั้งในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า พันธมิตรทางสถาบันการเงินเพื่อมอบข้อเสนอพิเศษที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า รวมถึงการร่วมกับกลุ่มศิลปิน Artist ในการสร้างสรรค์สินค้าคอลเลคชั่นพิเศษที่เอ็กซ์คลูซีฟ
- CSR / Eco / Community ถือเป็นกลยุทธ์ที่เดอะมอลล์ให้ความสำคัญ เพื่อสร้างการรับรู้ในฐานะที่เป็นธุรกิจรีเทลผู้บุกเบิกกิจกรรมที่เป็นประโยช์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ THE MALL GROUP GO GREEN: Green Everyday ที่ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้ประกาศเจตนารมณ์เป็นห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรก ที่งดบริการถุงพลาสติกทุกวัน นอกจากนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังมีความมุ่งมั่น ตั้งใจสานต่อนโยบายดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรในชุมชนต่างๆ ฯลฯ
อัดโปรสุดคุ้ม พร้อมหลากกิจกรรม คืนความสุขให้ลูกค้ารับเทศกาลปีใหม่
เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ จัดเต็มสีสันแห่งความสนุกส่งท้ายปี กับแคมเปญ
“THE MALL JOY OF GIVING x WE BARE BEARS WE WISH YOU A BEARY CHRISTMAS
คุณดวงตา พงษ์วิไลย์ ผู้อำนวยการใหญ่การตลาด เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ (Ms. Duangta Phongwilai, Vice President of Marketing The Mall Shopping Center) กล่าวถึงแคมเปญใหญ่ในช่วงปลายปีว่า “เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ บัตรเครดิตเอสซีบีเอ็ม วีซ่า (SCB M VISA), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารซิตี้แบงก์, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมเติมเต็มสีสันแห่งความสุข สนุกส่งท้ายปี จัดแคมเปญ “THE MALL JOY OF GIVING x WE BARE BEARS WE WISH YOU A BEARY CHRISTMAS ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2562 – 12 ม.ค. 2563 ที่ เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ทุกสาขา ซึ่งพิเศษสุดกับครั้งแรกในประเทศไทย ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่กับการท่องโลกดิจิทัลสุดล้ำเหนือจินตนาการกับเหล่า WE BARE BEARS กริซลี่ (Grizzly) แพนด้า (Panda) และไอซ์แบร์ (Ice Bear) สามหมีจอมป่วนในรูปแบบกิจกรรม INTERACTIVE ภายใต้คอนเซ็ปต์ WE BARE BEARS INTERACTIVE BEARY CHRISTMAS TOWN ภายในงาน พบกับ 10 จุด Checkpoints ที่ให้แฟนๆ WE BARE BEARS มาร่วมสนุกท่ามกลางบรรยากาศเมืองหิมะที่มีเทคโนโลยี AR ในรูปแบบ 3 มิติรวมถึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มาส่งความสุขกันทาง Online กับ BEARY X’MAS ROOM DIGITAL E-CARD ส่งมอบความสุขแบบหมีๆผ่าน E-card สุดพิเศษที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ และยังมีกิจกรรมเกมส์ในรูปแบบดิจิทัล อาทิ BEARY TOWER ต่อหมีมอบของรางวัลแบบจัดเต็มให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังเตรียมกิจกรรม THE MALL FAMILY CLUB เวิร์คช็อปคุณหนูๆ ฉบับหมี, M CARD BAR X WE BARE BEARS รับฟรี! คุกกี้ไอศกรีมแซนด์วิช, WE BARE BEARS HUGS กอด แชร์และมีทแอนด์กรี๊ด กับสามหมีจอมป่วนและ WE BARE BEARS POP UP SHOP ช้อปสินค้าลิขสิทธิ์แท้ในราคาสุดพิเศษที่เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ที่เดียว โดยในส่วนของกิจกรรมการจัดงานนี้ สาขาในกรุงเทพฯ จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. – 11 ธ.ค.2562 ที่ เดอะมอลล์ บางแค,วันที่ 9 ธ.ค.2562- 3 ม.ค.2563 ที่ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เฉพาะ WE BARE BEARS HUGS กอด แชร์ มีทแอนด์กรี๊ดกับสามหมีจอมป่วน และจัดเต็มรูปแบบอีกครั้งในวันที่ 20 ธ.ค.2562 – 3 ม.ค.2563 ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ
พิเศษ! ครั้งแรกในเมืองไทยสำหรับชาวพี่น้องภาคอีสาน เดอะมอลล์ โคราช ร่วมสนุก และล่าของรางวัลไปกับ BARE MAZE เขาวงกตไซส์ยักษ์ในคอนเซ็ปต์ WE BARE BEARS ร่วมผจญภัยไปกับสามหมีจอมป่วนพร้อมกิจกรรมต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข งานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.2562 – 1 ม.ค. 2563 บริเวณแฟชั่น ฮอลล์ เดอะมอลล์ โคราช
สำหรับโปรโมชั่นพิเศษและกิจกรรมของแคมเปญ “THE MALL JOY OF GIVING x WE BARE BEARS WE WISH YOU A BEARY CHRISTMAS รวมมูลค่ามากกว่า 37 ล้านบาท พร้อมรับ Joy Of Giving Premium We Bare Bears Limited Collection อาทิ ช้อปภายในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ครบ 18,000 บาทขึ้นไป พร้อมแสดงบัตรหรือ M Card Application รับฟรี Luggage We Bare Bears Limited Collection ช้อปครบ 8,000 บาทขึ้นไป รับฟรี FLIP PILLOW We Bare Bears Limited Collection พิเศษสมาชิกบัตรเครดิต SCB M VISA ช้อปภายในศูนย์ฯ ครบ 5,000 บาทขึ้นไป รับฟรี Travel Set We Bare Bears Limited Collection พิเศษ!! เฉพาะวันที่ 23-24 พ.ย.2562 รับฟรี บัตรกำนัลห้างฯสูงสุดมูลค่า 2,500 บาท พร้อมสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตชั้นนำรวมถึงสิทธิพิเศษสำหรับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ตลอดจนกิจกรรมและโปรโมชั่นสุดเซอร์ไพรส์อีกมากมาย งานจัดตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2562 – 12 ม.ค.2563 ที่ เดอะมอลล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ทุกสาขา
Brilliant Thanks 2020 แจกจัดหนัก!! 20 ล้าน M Point
พร้อมมอบบัตรกำนัลและของขวัญพิเศษ รวมมูลค่ากว่า 42 ล้านบาท
ทางด้าน นางสาวนงลักษณ์ โลหะมาณพ ผู้จัดการใหญ่การตลาด Corporate Promotion บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Miss Nonglak Lohamanop, Group General Manager, Corporate Promotion, The Mall Group Co., Ltd.) กล่าวว่า “เพื่อความคุ้มค่าในการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงได้จัดแคมเปญ “Brilliant Thanks 2020” มาเสริมความพิเศษ ระหว่างวันที่ 2 ธ.ค. 2562 – 5 ม.ค. 2563 โดยหวังโกยยอดจากแคมเปญนี้รวมกว่า 7,000 ล้านบาท ลูกค้าที่ซื้อสินค้าภายในห้างฯ เดอะมอลล์, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ (รวม Power Mall, Gourmet Market และ Home Fresh Mart) เมื่อช้อปครบทุก 2,000 บาท รับสิทธิ์ลุ้นรับ M Point 1 ล้านคะแนน จำนวน 20 รางวัล รวม 20 ล้านคะแนน นอกจากนี้ ยังเพิ่มความแรงด้วยการมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษเมื่อช้อปในห้างฯ อาทิ
- รับคูปองส่วนลดสูงสุด 40%(เมื่อช้อปครบทุก 1,000 - 10,000 บาท หรือใช้คะแนน M Point 80 - 1,000 คะแนน แลกรับ)
- พิเศษสมาชิกบัตรเครดิต SCB M VISA และบัตร M Card ช้อปผ่านบัตรรับเงินคืนรวมสูงสุด 400 บาท ระหว่างวันที่ 2 -19 ธ.ค.62 (เดอะมอลล์ ทุกสาขา ช้อปครบทุก 3,000 บาท รับเงินคืน 200 บาท /เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และ พารากอน ช้อปครบทุก 5,000 บาท รับเงินคืน 400 บาท (ไม่รวม Power Mall, Gourmet Market และ Home Fresh Mart) มูลค่ารวม 7 ล้านบาท
- ช้อปรับฟรีของขวัญคอลเลคชั่นพิเศษจาก WE BARE BEARS LIMITED EDITION รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 20 ธ.ค. 62 – 5 ม.ค. 63 เมื่อช้อปในห้างฯครบ 8,000 บาท รับฟรี Powerbank มูลค่า1,990บาท และเมื่อช้อปครบ 20,000 บาท รับฟรี กระเป๋าเดินทางขนาด 24 นิ้ว มูลค่า 6,990 บาท
เดอะมอลล์ - เอ็มโพเรียม - พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ร่วมส่งสุขรับปีใหม่
ชูคอนเซ็ปต์ “The Gift Master” ต้นแบบของขวัญที่ดีที่สุด
เดอะมอลล์ ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ร่วมต้อนรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ชวนเริ่มต้นปีใหม่ด้วยของขวัญสุดพิเศษ เพื่อส่งความสุขแด่คนที่คุณรัก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Gift Master”ต้นแบบของขวัญที่ดีที่สุด ระหว่างวันที่ 2 ธ.ค. 2562 – 5 ม.ค. 2563
กระเช้าปีใหม่จากชุมสู่คนที่คุณรัก ลดสูงสุด 46% ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต
กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ โฮม เฟรช มาร์ท ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขด้วยแรงบันดาลใจของการให้ไม่รู้จบ เปิดตัวแคมเปญ “Blissful Hampers 2020” ภายใต้คอนเซ็ปต์“Spread The Joy” กระเช้าของขวัญคอลเลคชั่นสุดพิเศษ ที่สร้างสรรค์ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมท้องถิ่น โดยได้ดึงเอาเอกลักษณ์และความสวยงามของหัตถกรรมไทย มาดีไซน์ให้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น เป็น กระเช้าของขวัญผักตบชวาและกระจูด ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น และสวยงาม ในปีนี้ กระเช้าของขวัญของ กูร์เมต์ มาร์เก็ต จึงทำให้ ‘การให้’ จะ มีความหมาย และยิ่งใหญ่มากขึ้น ด้วยการส่งต่อของขวัญปันความสุขและรอยยิ้มสู่ชุมชน ด้วยการส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน พร้อมให้ได้สุขเพิ่มขึ้น ด้วยโปรโมชั่น รับคืนรวมสูงสุดถึง 46% พร้อมบริการผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% สูงสุดนาน 6 เดือน และจัดส่งฟรีเมื่อสั่งกระเช้าออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ – 15 ม.ค. 2563 ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ โฮม เฟรช มาร์ท ทุกสาขา
นางสาววรลักษณ์ กล่าวว่า “นอกจากโปรโมชั่นและกิจกรรมที่จัดเต็มส่งท้ายปีแล้ว M Card ยังมีบริการพิเศษ “M Card Chat & Shop” ผู้ช่วยส่วนตัวนักช้อป แชทมา ช้อปให้ ส่งถึงที่ บริการ Social Commerce ผ่านช่องทาง Line Application เพียงเพิ่มเพื่อน LINE @MCARDSHOP และแชทโต้ตอบกับพนักงาน สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทุกชิ้นทุกแผนกภายในห้างฯ เสมือนมาช้อปด้วยตัวเอง หรือคลิกดูสินค้าแนะนำได้ที่ เว็บไซต์ www.mcardshop.com
และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งได้ จึงได้จัดให้มีบริการเสริม PERSONALIZATION ให้ลูกค้าออกแบบดีไซน์สินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อด้วยตัวเอง เพื่อเป็นของขวัญที่ถูกใจผู้รับในแบบไม่ซ้ำใคร อาทิ ปักชื่อบนกระเป๋า พิมพ์ข้อความบนริบบิ้นห่อของขวัญ ฯลฯ เพียงแค่แชทแจ้งมา ก็ได้ของขวัญส่งความสุขให้คนที่คุณรักในทุกๆ เทศกาล พร้อมจัดส่งทั่วไทย
ปัจจุบันมีลูกค้าแชทเข้ามามากกว่า 200 ข้อความต่อวัน และเกิดการซื้อขายมากกว่า 800 ออเดอร์ต่อเดือน ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการมีทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยในเดือนตุลาคม ที่ผ่านมามียอดมากกว่า 15 ล้านบาท สินค้าที่ได้รับความนิยมในการสั่งซื้อได้แก่ เครื่องสำอาง, เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก, มือถือ Gadget และของตกแต่งบ้าน เป็นต้น โดยในปีหน้า 2563 “M Card Chat & Shop” ตั้งเป้าหมายลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 1,000 ออเดอร์ต่อเดือน หรือคิดเป็นยอดขายมากกว่า 50 ล้านบาท เน้นขยายไปยังต่างจังหวัดที่เดอะมอลล์ไม่มีสาขาอยู่ และชู Concept “ออกแบบสินค้าหรือของขวัญให้คนที่คุณรัก ส่งตรงจาก พารากอน/เอ็มโพเรียม สร้างความประทับใจแรก ที่เปิดกล่อง”
สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ “M Card Chat & Shop” จัดโปรโมชั่นเอาใจลูกค้า รับส่วนลด 500 บาท เมื่อช้อปสินค้าครบ 3,000 บาทต่อใบเสร็จ ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2562 - 10 ม.ค. 2563 จำกัด 300 ท่านแรก ดูรายละเอียดที่ www.mcardshop.com
นางสาววรลักษณ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทั้งนี้ คาดว่าการจัดแคมเปญและกิจกรรมต่างๆเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าในช่วงปลายปีและช่วยเพิ่ม Traffic ในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ 25% จากช่วงเวลาปกติ โดยคาดว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี สามารถสร้างยอดขายได้รวมกว่า 16,800 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะพิชิตยอดขายสิ้นปี 58,000 ล้านบาท”